นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า ปี 2566 เป็นปีแห่งโอกาสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังเริ่มเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2565 ที่มีแนวโน้มเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากภาคท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

ในขณะที่บริษัทมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนครบทุกกลุ่มราคาในหลายทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ในราคาที่ยังไม่ได้ปรับสูงขึ้นตามราคาของที่ดินที่ปรับขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าว่ายังเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตของคนเมืองได้เป็นอย่างดี

โดยล่าสุดบริษัทมีสต๊อกคอนโดมิเนียมพร้อมโอนรวมทั้งสิ้น 45,000 ล้านบาท ที่สามารถรองรับการขายให้กับลูกค้าได้ทันที โดยเฉพาะกลุ่มลูกต้าต่างชาติ โดยมีจีนเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ปัจจุบันเริ่มหันมาซื้อคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในต่างประเทศ หลังจากช่วงโควิดมีหลายโครงการในต่างประเทศซื้อแล้วสร้างไม่เสร็จ ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น

ในขณะที่แผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการเป็นคอนโดมิเนียมในระดับแฟลกชิพ มูลค่ารวมกว่า 14,600 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแบรนด์เดด เรสซิเดนซ์ บนทำเลสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย มูลค่าโครงการประมาณ 6,500 ล้านบาท ราคาห้องชุดเริ่มที่ 150 ล้านบาท หรือราคาต่อตร.ม. เริ่มที่ตร.ม. 2.5 แสนบาท และโครงการ ไอดีโอ พหล-สะพานควาย ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย มูลค่าโครงการประมาณ 8,100 ล้านบาท สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบจะยังเป็นการเปิดขายโครงการเดิมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

อีกทั้งในปีนี้บริษัทจะเปิดให้บริการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อย่างเต็มรูปแบบทั้งหมด 5 โครงการ ประกอบด้วย ซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9, แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก, แอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร, ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก, และ ซัมเมอร์เซ็ต พัทยา ซึ่งจากปัจจัยบวกโดยตรงจากการเปิดประเทศของไทย จะส่งผลดีต่อธุรกิจ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจในอันดับต้นๆ ของโลกทำให้ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 14,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ 18,000 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน