น.ส.เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็มเจดี เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา บริษัทชะลอการเปิดโครงการใหม่ ขณะเดียวกันได้ผ่าตัดองค์กรในหลายด้าน เพื่อรองรับการกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมมุ่งเปลี่ยนสถานะจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและโครงการที่อยู่อาศัยที่เลี้ยงสัตว์ได้ สู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2566 เตรียมเดินหน้าขยายทั้งธุรกิจหลักด้านพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยด้วยการเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 14,700 ล้านบาท ซึ่งมากที่สุดนับแต่ก่อตั้ง 24 ปี แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม ซูเปอร์ลักซูรี ไฮไรส์ 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท และบ้านจัดสรร 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,900 ล้านบาท โดยเกาะทำเลที่มีความต้องการสูง ตั้งแต่ สุขุมวิท พร้อมพงษ์ พญาไท พัฒนาการ ลาดพร้าว และรามคำแหง พร้อมกับเดินหน้าระบายคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จพร้อมโอนอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ระดับราคาตั้งแต่ 3-80 ล้านบาท
ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยว ที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัด เพิ่มบรรยากาศการจับจ่ายและกำลังซื้อให้ผู้บริโภค ทำให้บริษัทวางแผนนำโครงการสร้างเสร็จไปโรดโชว์ในต่างประเทศ และทำการตลาด พร้อมเชิญกลุ่มลูกค้าต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมโครงการผ่านตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์
โดยวางเป้าหมายยอดขายในส่วนนี้ราว 60-70% ในปีนี้ และตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ 7,000 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้แล้ว 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทยังเตรียมลงทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บริเวณซอยอารีย์มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2,000 ล้านบาท และอีก 4,000 ล้านบาท เป็นพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก ตลอดจนยังมีแผนร่วมทุนกับพันธมิตรในการขยายธุรกิจเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ 5 ปี เพื่อเพิ่ม สัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประมาณ 20% จากปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่า 5%
