นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า จากปัจจัยอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง รวมไปถึงการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร คาดว่าแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสแรกของปี 2567 จะอยู่ในสภาวะทรงตัว แต่อย่างไรก็ดีมีสัญญาณที่ดีจากเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ที่เริ่มพื้นตัวให้เห็นจากมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

รวมไปถึงนโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่เตรียมจะออกมาต่อจากนี้ โดยที่สมาคมฯ ร่วมกันกับ 7 สมาคมได้ยื่นหนังสือนำเสนอ 8 มาตรการฟื้นตลาดอสังหาฯ ให้นายกรัฐมนตรี ไปเมื่อก่อนหน้านี้ คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านมีการขยายตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 เดือนก่อนหน้านี้

“ในปี 2566 ตลาดรับสร้างบ้านมีมูลค่าอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท ไม่เติบโตได้ตามที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่กว่า 13,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากต้นปีราคาวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ เหล็กที่มีสัดส่วน 60-70% ของงานโครงสร้างในการก่อสร้าง ทำให้ต้นทุนการสร้างบ้านเพิ่ม พร้อมอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น ส่งผลให้ยอดสร้างบ้าน 3 ไตรมาสทรงตัวจากปีที่แล้ว ตัวเลขไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 กำลังรวบรวมอยู่ แต่คาดว่าจะยังทรงตัวต่อเนื่อง“

ทั้งนี้ สมาคมฯ เองมีแผนงานเชิงรุกและกิจกรรมจะผลักดันออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567 โดยเน้นการสร้างการรับรู้และขยายฐานสมาชิกบริษัทรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ด้วยการยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้าง รวมถึงการให้บริการที่น่าเชื่อถือและสร้างความแข็งแกร่งของสมาคมฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายขยายจำนวนสมาชิกรับสร้างบ้าน 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 75 ราย

เริ่มต้นปีในปีนี้ในด้านการส่งเสริมการตลาด สมาคมฯ เตรียมจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2024” โดยปีนี้ทางสมาคมฯ ได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัท ยูเนี่ยนแพน เอ็กซิบิชั่นส์ในการจัดงานแสดงสินค้าโฮม เอ็กซ์โป ในพื้นที่ต่อเชื่อมกัน อีกทั้งปีนี้มีการขยายเวลาจัดงานเป็น 9 วัน ระหว่างวันที่ 17-25 ก.พ. 2567 ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 8-10 เมืองทองธานี บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม.

โดยผู้ที่สนใจสร้างบ้าน สมาคมฯ มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการปฏิเสธในการขอสินเชื่อสร้างบ้าน เนื่องจากสมาคมฯ มีพันธมิตรสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุนด้านสินเชื่อเต็มที่ คาดว่าจะมีผู้เข้างานกว่า 30,000 คน และตั้งเป้าเงินสะพัดจากการจองสั่งสร้างบ้าน 4,500 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน