นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล. ดับเบิลยู. เอส. วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด หรือ LWS บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า ได้รวบรวมข้อมูลผลประกอบการ 39 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ปี 2566 พบว่ามีรายได้รวม 326,722.43 ล้านบาท โดยลดลง -2.25% เมื่อเทียบกับปี 2565 ขณะที่กำไรสุทธิลดลงถึง -15.23% หรืออยู่ที่ 37,653.10 ล้านบาท โดยความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับ 11.52% ในส่วนของสินค้าคงเหลือพบว่าเพิ่มขึ้น 10.93% หรืออยู่ที่ 666,526.73 ล้านบาท

สำหรับ 3 อันดับบจ. ที่มีรายได้สูงสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ ด้วยรายได้ 39,082.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +11.71% รองลงมาเป็น บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) มีรายได้ 38,399.23 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย -0.79% และ บมจ.ศุภาลัย มีรายได้ 31,818.07 ล้านบาท ลดลง -10.39%

อย่างไรก็ดี หากดูในแง่ของอัตรากำไรสุทธิ 3 อันดับแรก นำโดย แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งอยู่ที่ 7,481.89 ล้านบาท (เกือบครึ่งเกิดจากส่วนแบ่งกำไรจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม) และเมื่อเทียบกำไรสุทธิกับปีก่อนหน้าพบว่าลดลง -9.9% ตามด้วย แสนสิริ มีกำไรสุทธิ 6,060.38 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง +41.60% (ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบันทึกกำไรจากการขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนาและกำไรจากการขายที่ดิน) ตามมาด้วยอันดับ 3 เป็นของ เอพี (ไทยแลนด์) มีกำไรสุทธิ 6,054.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 3.01% จากปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ยังพบด้วยว่า 3 อันดับบจ. ที่มีสินค้าคงค้างสูงสุด เป็นของ แสนสิริ 100,042.03 ล้านบาท รองลงมคือ เอพี 71,704.98 ล้านบาท และศุภาลัย 71,125.30 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน