นายพงศ์ศักดิ์ สวาทยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพลินพัฒน์ แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งธุรกิจของครอบครัวและร่วมทุนพันธมิตรมาหลายโครงการ เป็นระยะเวลาหลาย 10 ปี และมองว่าที่อยู่ที่อาศัย โดยเฉพาะโครงการแนวราบ ยังเป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนมีความต้องการ ดังนั้น เมื่อปี 2561 จึงร่วมกับพันธมิตรก่อตั้ง บริษัท เพลินพัฒน์ แอสเสท จำกัด ขึ้นมาด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยตนถือหุ้นในสัดส่วน 51% และอีก 49% เป็นการถือหุ้นโดยพันธมิตรอีก 2-3 กลุ่ม โดยการพัฒนาแต่ละโครงการจะตั้งบริษัทในเครือขึ้นมาพัฒนา ภายใต้แบรนด์ “Maison Development” (เมซัน ดีเวลลอปเม้นท์)

โดยการร่วมทุนในครั้งนั้นจะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการพัฒนาแนวราบ ระดับราคา 2-5 ล้านบาทเป็นหลัก ในทำเลในกรุงเทพฯโซนเหนือ-ตะวันออก-ตะวันตก จ.สมุทรปราการ และอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยที่ผ่านมาพัฒนามาแล้ว 6 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 2,325 ล้านบาท โดยปิดการขายไปแล้ว 3 โครงการ รวมมูลค่า 1,132 ล้านบาท ได้แก่ 1.เอ็มเวนิว เวสต์เกต 2.เอ็มไลฟ์ บางนา-ลาดกระบัง และ 3.เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร

ส่วนอีก 3 โครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขาย มีมูลค่าประมาณ 1,193 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดภายในปี 2567 นี้ ประกอบด้วย 1.เอ็มไลฟ์ ลำลูกกา-คลอง4, 2.เอ็มไลฟ์ สุขุมวิท-บางปู 87 และ 3.ศรีราชา ฮิลล์ไซด์ ทาวน์ สุขุมวิท-ศรีราชา

นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 2567 จะเป็นปีที่ท้าทาย โดยบ้านระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ยังมีความน่าเป็นห่วง เนื่องจากเป็นเซกเมนต์ที่มียอดรีเจ็กต์สูง และหนี้เสียที่เพิ่มมากขึ้น เพราะสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

แต่ในส่วนของบริษัทฯ แม้จะพัฒนาบ้านในระดับราคา 2-5 ล้านบาท แต่ด้วยศักยภาพของทำเลที่ดินที่พัฒนา ทำให้มียอดขายและยอดโอนที่ดี ซึ่งเป็นการเปิดขายในช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 ทำให้ไม่ประสบปัญหาในเรื่องยอดรีเจ็กต์ มากนัก ยิ่งหลังวิกฤตโควิด-19 ความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบก็มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้มียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 นี้ จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 7 โครงการ รวมมูลค่า 3,734 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ, ศรีราชา(ชลบุรี) และภูเก็ต (ตรงข้ามสนามบินภูเก็ต) โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีการปรับแผนรุกพัฒนาบ้านระดับลักชัวรี ระดับราคาตั้งแต่ 7-20 ล้านบาท ถึงจำนวน 6 โครงการ คือที่ กรุงเทพฯ 5 โครงการ และภูเก็ต 1 โครงการ โดยมีที่ดินรองรับทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วย

1.ไมซัน ฮิลล์ สุขุมวิท-ศรีราชา ทาวน์โฮม ราคา 2.3-3.5 ล้านบาท บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคา 3.9-4.2 ล้านบาท 2.มอร์เกน บางขุนเทียน-พระราม2 พัฒนาในรูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 7.5-14 ล้านบาท 3.เอ็ม เวนิว พระราม3-สุขสวัสดิ์62 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคา 4.9-6 ล้านบาท

4.แกรนด์ มอร์เกน ไพรเวซี่ พรานนก-สาย1 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 18-20 ล้านบาท 5.แกรนด์ มอร์เกน พรานนก-สาย2 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 14-16 ล้านบาท 6.มาร์วิช สาธุประดิษฐ์-พระราม3 ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ราคา 14-16 ล้านบาท 7.เมซัน สกาย วิลล่า ภูเก็ต พูลวิลล่า 3 ชั้น ราคา 20-25 ล้านบาท โดยทุกโครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2567-2569








Advertisement

“ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 5 ปีนี้ จะยังคงเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบ ระดับราคาตั้งแต่ 3-20 กว่าล้านบาทขึ้นไปเป็นหลัก ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน และต่างจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะภูเก็ต ซึ่งยังมีที่ดินย่านหาดในทอน สะสมเหลืออยู่อีกประมาณหลาย 10 ไร่ โดยในอีก 5 ปีข้างหน้าจะทำให้บริษัทมีพอร์ตรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท และในอนาคตก็สนใจที่จะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย ส่วนจะเป็นตลาดไหนต้องขอใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูลก่อน”นายพงศ์ศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 1,400-1,500 ล้านบาท และยอดโอน 900 ล้านบาท จาก 3 โครงการเดิมและ 7 โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปี 2567 นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน