นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประเทศไทย และอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางในการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนทั่วโลก ที่สำคัญคือรัฐบาลปัจจุบันมีทิศทางในการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจมีความชัดเจนขึ้น และความสะดวกในประกอบธุรกิจก็ชัดเจนขึ้นด้วย

ทำให้เจแอลแอล มองแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 จะเป็นปีที่ดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะประเภทโลจิสติกส์ และพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นปีที่ดีต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา โดย เจแอลแอล มีการขายที่ดินให้กับผู้พัฒนาโครงการโลจิสติกส์ และนิคมอุตสาหกรรมไปแล้วตั้งแต่ปี 2561-2566 ประมาณ 10,000 ไร่ จากอานิสงส์ของนโยบาย China +1 ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้นักลงทุนมองหาพื้นที่ฮีอีซี

อย่างไรก็ดี ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มสำคัญไม่เพียงในไทย แต่รวมถึงเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งเป็น 4 ตลาดที่นักลงทุนต่างชาติมองหาพื้นที่ในการเข้ามาลงทุน เพราะไม่เพียงมีศักยภาพทั้งจำนวนประชากรที่มีค่อนข้างมาก แต่ประชากรส่วนใหญ่เข้าถึงการใช้อินเตอร์เน็ตสูง ทำให้มีความต้องการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์สูง ที่สำคัญประเทศไทยมีสาธารณูปโภคที่ดี และมีการส่งเสริมการลงทุน โดยหลายปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมให้การลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาทำให้มีความต้องการใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้นกว่าเดิมมากหลายเท่าตัว ทำให้ความต้องการในการลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยยังแค่เพิ่งเริ่มต้น โดยเฉพาะมีนักลงทุนรายใหญ่ติดต่อให้บริษัทหาพื้นที่ให้ค่อนข้างมากโดยความต้องการมีตั้งแต่ 20-1,000 ไร่

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ นาย Hussain Sajwani นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวเอมิเรตส์และผู้ก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ DAMAC Properties และบริษัทเพื่อการลงทุน DAMAC Group โดยดำเนินธุรกิจปีนี้เป็นปีที่ 42 กล่าวว่าบริษัทได้ขยายไปหลากหลายธุรกิจในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และการร่วมทุนครั้งนี้ไม่เพียงเป็นครั้งแรกที่เริ่มลงทุนในประเทศไทย แต่ยังเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้บริษัทยังมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบแบรนด์เด็ดเรสซิเดนซ์ ในปี 2568 ด้วย

นายไมเคิล ยังกล่าวถึงภาพพรวมตลาดสำนักงานให้เช่าในปีหน้า ยังคงมีการย้ายเข้าอย่างคึกคัก ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ที่มีบริษัทต่างๆ ย้ายและขยายออฟฟิศใหม่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอาคารสำนักงานใหม่ต่างๆ เริ่มเสร็จและผู้เช่าเริ่มเห็นความน่าสนใจของอาคารสำนักงานใหม่ๆ การแข่งขันด้านคุณภาพของอาคาร ตลอดจนการมองหาอาคารที่มีมาตรการอาคารสีเขียวก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากอาคารสำนักงานแบบเดิมๆ สู่พื้นที่สำนักงานรูปแบบใหม่ แม้ว่าราคาจะสูงกว่าก็ตาม”

ขณะที่ภาพรวมพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า ปี 2567 ถือเป็นปีที่ดีของตลาดห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะเห็นว่ามีโครงการใหม่ๆ เข้ามาในตลาดคล้ายคลึงกับตลาดออฟฟิศ ที่มาพร้อมผู้เช่าซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ๆ จากต่างประเทศ โดยในปีนี้เองมีถึง 320 แบรนด์ที่ขยายเข้ามาเปิดตัวในไทย ทั้งนี้ เกิดการผลักดันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงก่อนโควิดแล้ว ขณะเดียวกันมองไปข้างหน้าในปี 2568 ซึ่งจะมีพื้นที่ศูนย์การค้าใหม่ๆ เข้ามาในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เกิดขึ้นค่อนข้างมาก ดังนั้นห้างสรรพสินค้าเดิมที่อยู่ติดกับห้างใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น จะแข่งขันได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าจะมีผลต่ออัตราค่าเช่าพื้นที่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะบนทำเลถนนพระราม 4

“ประเด็นสำคัญในตลาดพื้นที่ค้าปลีก เราเห็นผู้เช่าที่เป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่นกลับมาอีกครั้งใกล้เคียงกับช่วงปี 2561-2562 เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ ต้องการมีหน้าร้านเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ให้กับลูกค้า”นายไมเคิล กล่าวและว่า ตลาดห้างสรรพสินค้าของไทยมีความแข็งแรง และโดดเด่น ที่สำคัญกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีอัตราการว่างของพื้นที่เช่าห้างสรรพสินค้าแทบจะน้อยที่สุดในเอเชียแปซิฟิค รองจากสิงคโปร์และกรุงโซล ประเทศเกาหลี

ขณะที่แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยของไทย อาจยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว เนื่องจากตลาดยังถูกท้าทายจากอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างสูง ผู้ประกอบการยังมีสต๊อกบ้านและคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จ ยังขายไม่ได้ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ดีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังมีโอกาสปรับลดลงได้อีกในช่วงต้นปีหน้า ทำให้ลดแรงกดดันให้กับตลาดได้

แต่ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยลบจากหนี้ครัวเรือนที่สูงทำให้กำลังซื้อยังฟื้นตัวได้ไม่ดีมาก ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยให้เช่าได้อานิสงส์ โดยคนเลือกไปเช่าอยู่อาศัยแทน และมีผลให้อัตราค่าเช่าดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในพบว่าค่าเช่าเพิ่มขึ้น 40% นอกจากนี้แนวโน้มคนรุ่นใหม่ ไม่ต้องการผูกติดภาระตัวเองกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย และเลือกที่จะเช่าแทนที่จะซื้อดังนั้นตลาดเช่าน่าจะคึกคักพอสมควร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน