นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ วางเป้าหมายในการบริหารจัดการลดภาระหนี้ 16,000 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถลดภาระหนี้ลงได้แล้ว 8,000 ล้านบาท จากการขายโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท และชำระคืนหุ้นกู้ ภายในปี 2568 พร้อมกับตั้งเป้าเร่งลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่องอีก 8,000 ล้านบาท ด้วยการขายที่ดินและเงินลงทุน ร่วมทุน และการชำระคืนหุ้นกู้ ซึ่งการลดภาระหนี้ลงตามแผนจะทำให้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายให้กลุ่มบริษัทได้ถึง 1,000 ล้านบาทและยังทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น มีสภาพคล่องทางการเงินสูงขึ้น ที่สำคัญทำให้อัตรา ส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ
พร้อมกันนี้จะเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศใน 3 องค์กร ซึ่งในปี 2568–2569 กลุ่มบริษัทจะได้รับคืนเงินลงทุนและ เงินให้กู้ยืมแก่ผู้ถือหุ้น จากโครงการร่วมทุน เป็นจำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและกระแสเงินสดให้กับกลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีการพัฒนาโครงการร่วมทุนทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 27,950 ล้านบาท ทั้งการร่วมทุนกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ผู้นำในธุรกิจป่าไม้และก่อสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่น ในโครงการไฮด์เฮอริเทจ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ มูลค่า 6,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้ในปี 2569 และโครงการ เลค ฟอเรสต์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ บ้านเดี่ยว มูลค่า 4,450 ล้านบาท รวมถึงความร่วมมือกับ ฮ่องกง แลนด์ ในโครงการเลค เลเจ้นด์ บ้านระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ริมทะเลสาบใน 2 ทำเล แจ้งวัฒนะ และ บางนา-สุวรรณภูมิ รวมมูลค่า 13,870 ล้านบาท ตลอดจนความร่วมมือกับเซกิซุย เคมิคอล ผู้นำในตลาดรับสร้างบ้านของประเทศญี่ปุ่น พัฒนาบ้านนวัตกรรมที่ก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์ ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 5 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา รามคำแหง สุขุมวิท รัตนาธิเบศร์และ แจ้งวัฒนะ มูลค่ารวม 3,430 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้ง 5 ทำเลได้ในกลางปีหน้า
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 กลุ่มบริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพและโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจ ทั้งจากการเปิดโครงการใหม่ การเพิ่มยอดขายจากกลุ่มโครงการลักซ์ชัวรี่ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงแผนพัฒนาโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าระดับบน อีกทั้งยังจะมีความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ร่วมลงทุนต่อยอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ