นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวในปีนี้น่าจะได้ประมาณ 10 ล้านตัน แต่ยังไม่ได้เป็นที่ 1 ของประเทศผู้ส่งออกข้าว เพราะอินเดียสามารถส่งออกไปแล้วเกือบ 10 ล้านตัน ขณะที่ไทย 11 เดือน ทำได้ประมาณ 9.2 ล้านตัน ไทยจึงไม่น่าจะตามอินเดียทัน อย่างไรก็ตามสาเหตุที่การส่งออกข้าวไทยทำได้มาก เนื่องจากขณะนี้ผลผลิตข้าวใหม่ออกมามาก ประกอบกับตรุษจีนเร็วขึ้น ทำให้หลายประเทศต่างเร่งซื้อข้าวหอมมะลิเพิ่มขึ้น โดยการส่งออกข้าวหอมมะลิต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 90,000 ตันเป็น 120,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนราคาถือว่าดีขึ้นเช่นกันโดยขณะนี้ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิอยู่ที่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเพิ่มขึ้นประมาณ 60 – 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เนื่องจากสินเชื่อชะลอการขายของภาครัฐ ทำให้ผลผลิตไม่ล้นตลาด และทำให้ราคาดีขึ้น ส่วนปี 2560 ผู้ส่งออกก็จะพยายามผลักดันให้ได้มากที่สุด แต่ยอมรับว่าการที่เรายังมีสต็อกข้าวในโกดังรัฐบาลกว่า 8 ล้านตันที่รอการระบายอยู่ซึ่งน่าจะระบายได้หลังเดือนม.ค.2560 หลังจากที่ข้าวใหม่ออกมาหมดแล้วเพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวใหม่ ซึ่งมองว่าข้าวที่จะระบายออกมาจะได้รับความสนใจจากเอกชน เพราะคนไทยนิยมกินข้าวเก่าเพราะหุงขึ้นหม้อจึงไม่น่ามีปัญหาด้านราคา
สำหรับราคาในประเทศขณะนี้ ถือว่าปรับตัวดีขึ้นเช่นกันโดยราคาข้าวขาว 5% ปรับเพิ่มจาก 10.80 บาทต่อกิโลกรัมมาเป็น 12 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนข้าวหอมมะลิปรับเพิ่มขึ้นจาก 15.80 บาทต่อกิโลกรัมมาเป็น 19 ถึง 20 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวเหนียวปรับเพิ่มจาก 17.50 บาทมาเป็น 21.50 บาทต่อกิโลกรัม และหากสามารถเร่งระบายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่กว่า 8 ล้านตัน ได้ก็จะช่วยให้ราคาปรับดีขึ้น
“ตอนนี้เราส่งไปแล้ว 9.2 ล้านตัน ซึ่งทำให้มั่นใจว่าปลายปีเราจะทำได้ถึง 10 ล้านตัน แน่นอน และราคาข้าวที่ดีดตัวสูงขึ้นขณะนี้เป็นผลมาจากทั้งจากนโยบายของรัฐบาลที่ชะลอการขายข้าวของชาวนาทำให้ข้าวที่ออกมาใหม่ถูกเก็บไว้ยุ้งฉางทำให้ปริมาณข้าวในตลาดน้อยลงส่งผลให้ตลาดมีความต้องการข้าวสูงมากขึ้น ผู้ส่งออกก็แย่งกันซื้อบวกกับตลาดโลกก็เริ่มมีความคึกคักมีความต้องการสูงขึ้น จึงทำให้ราคาสูงขึ้นและอาจจะสูงต่อเนื่องถึงปีหน้า ส่วนจะขึ้นเป็นอันดับ 1 หรือไม่ก็ขึ้นอยู่การทำตลาดและปริมาณการส่งออกของอินเดียว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน”นายเจริญ กล่าว
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยในเดือนธ.ค.น่าจะได้ถึง 800,000 ตัน เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวขาวของไทยปรับลดลงมาค่อนข้างเยอะและใกล้เคียงกับคู่แข่ง ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาเอฟโอบีลดลง สามารถแข่งขันได้ แต่ทั้งนี้ประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้เป็นแชมป์ส่งออกข้าวของโลก เนื่องจากอินเดียมีผลผลิตมาก และส่งออกมากกว่าไทยอยู่ 700,000 ตัน แต่เชื่อว่าจากการที่ไทยข้าวหอมมะลิไทยได้รับรางวัลชนะเลิศ จะทำให้ดึงความเชื่อมั่นกลับมา และทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าในปีหน้าการส่งออกข้าวไทยน่าจะได้ถึง 10 ล้าน ตันเช่นกัน
ขณะที่น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จะจัดงานแสดงความยินดีที่ข้าวหอมมะลิไทยได้รับรางวัลชนะเลิศ ข้าวดีเด่นของโลก ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ ซึ่งรางวัลดังกล่าว มีขึ้นเป็นประจำทุกปีในงาน The World Rice Conference โดยจะมีการเชิญสมาคมที่เกี่ยวข้อง สมาคมชาวนาไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย รวมถึงสถานทูตต่างๆ จากประเทศที่ซื้อข้าวจากไทยมาร่วมด้วย เพราะถือเป็นรางวัลของประเทศและเป็นความสำเร็จของไทยซึ่งจะเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพข้าวที่ดีของประเทศไทยด้วย โดยการให้คะแนนนั้น มาจากความสวยและความสะอาด จากตัวอย่างข้าวที่ยังไม่ได้หุง 40 คะแนน และอีก 60 คะแนน พิจารณาจากรสชาติข้าวที่หุงแล้ว ซึ่งไทยถือว่าเป็นเลิศ