นายฉัตรชัย ปานอยู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า ไทยสมายล์เตรียมฉลองก้าวสู่ปีที่ 7 โดย ในวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฎาคม) ปี 2561 นี้ ไทยสมายล์จะสร้างเซอร์ไพร์สให้แก่ผู้โดยสาร ด้วยการเสิร์ฟเมนูพิเศษจากร้านสตาร์บัคส์ และอาฟเตอร์ ยู ผู้นำด้านกาแฟและขนมหวาน ให้ผู้โดยสารทุกที่นั่ง ทั้งชั้นประหยัดพรีเมียม และชั้นประหยัด ทุกเที่ยวบินทั้ง 10 เส้นทางภายในประเทศ และ 18 เส้นทางระหว่างประเทศ ตลอด 7 วันตั้งแต่วันที่ 7-13 ก.ค.นี้

สำหรับเมนูสุดพิเศษ ประกอบด้วย ช็อกโกแลตเค้ก ผสมมาร์ชแมลโลว์ โรยหน้าด้วยครัมเบิลช็อกโกแลต, ชีสเค้กสลับชั้นเลเยอร์กับซอสสตอเบอรี่ โรยหน้าด้วยครัมเบิล และสาคูอัญชันน้ำกะทิราดซอสมะม่วง โดยทั้ง 3 เมนูนี้จะหมุนเวียนให้บริการคู่กับกาแฟสตาร์บัคส์ เวีย อิตาเลียน โรสต์นวัตกรรมกาแฟพร้อมชงจากสตาร์บัคส์ นอกจากนี้ ยังเซอร์ไพร์สผู้โดยสารด้วยบาริสต้าจากสตาร์บัคส์ขึ้นเสริฟ์กาแฟสด “ม่วนใจ๋ เบลนด์” และบริการสุดพิเศษ “Toast on Board” เมนูยอดฮิตจากอาฟเตอร์ยูให้แก่ผู้โดยสารในชั้นประหยัดพรีเมียมด้วย

นายฉัตรชัย กล่าวถึงแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2561 ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะเพิ่มความถี่เส้นทางบินภายในประเทศเช่น กรุงเทพฯ-อุดรธานี, กรุงเทพฯ-ขอนแก่น และกรุงเทพฯ-เชียงราย ให้เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ-ฉางซา เพิ่มจาก 7 เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, กรุงเทพฯ-บอมเบย์ (อินเดีย) 5 เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมทั้งยกเลิกเส้นทาง ภูเก็ต-กวางเจา เปลี่ยนเป็นกรุงเทพฯ-กวางเจา 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์แทน เนื่องจากตารางบินที่ภูเก็ตได้ช่วงเวลาที่ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก

นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-โกลกาตา (อินเดีย) 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, กรุงเทพฯ-โอกินาวา (ญี่ปุ่น) 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คาดเปิดบริการเดือนก.ค.นี้ และยังมีเส้นทางกรุงเทพฯ-ฮ่องกง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และภูเก็ต-ฮ่องกง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คาดเปิดบริการวันที่ 1 ต.ค.นี้, เส้นทางกรุงเทพฯ-หางโจว (จีน) 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คาดเปิดบริการปลายเดือนต.ค.นี้ รวมทั้งเส้นทางกรุงเทพฯ-หลินหยาง (จีน) ในรูปแบบเช่าเหมาลำด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสายการบินไทยสมายล์มีเครื่องบิน 20 ลำ อัตราการใช้เครื่องบินต่อลำอยู่ที่ 8.6 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10.1 ชั่วโมง ส่วนแผนจัดซื้อเครื่องบินนั้น หากได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร ภายใน 2 ปี จะซื้อเพิ่มอีก 2 ลำ ทั้งนี้ การแข่งขันของธุรกิจการบินในครึ่งปีหลังยังรุนแรงเหมือนเดิม แต่มั่นใจว่าปีนี้สายการบินไทยสมายล์ จะสามารถทำกำไรได้ โดยตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตกว่าปี 2560 หรือโตประมาณ 10% และมีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบินแฟกเตอร์) เฉลี่ยอยู่ที่ 80%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน