รายงานพิเศษ
ติดใจจากปีที่แล้วกับโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ที่ให้นำค่าใช้จ่ายในช่วง 7 วันสุดท้ายของปี 2558 มาหักภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท
ทำให้ปีนี้กระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรี จัดโครงการ ‘ช็อปช่วยชาติ’ ภาค 2 แต่ยืดเวลาเป็น 18 วัน จากวันที่ 14-31 ธ.ค.2559 ซึ่งผ่านการเห็นชอบเรียบร้อยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ใช้สิทธิจะต้องขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยขอจากผู้ค้าที่มีการจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีการค้าอย่างถูกต้อง โดยสินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษีได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ค่าเชื้อเพลิงที่รวมทั้งก๊าซและน้ำมัน
รวมทั้งค่าบริการที่จ่ายเป็นค่าสำหรับค่าไกด์นำเที่ยว ค่าที่พักที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
โดย 2 รายการหลังถูกจัดไปรวมกับการกระตุ้น ท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งได้สิทธิ์นำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในเดือนธ.ค.มาลดหย่อน 15,000 บาทได้
ยิ่งหากใครที่ไม่ได้ท่องเที่ยวเลยตั้งแต่ต้นปีได้เบิ้ลสิทธิ์เป็น 30,000 บาท เพราะช่วงต้นปีรัฐบาลออกมาตรการเดียวกันนี้มาแล้ว ให้สิ้นสุดเดือนธ.ค.เช่นกัน
กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าจะสูญเสียรายได้จากภาษีประมาณ 3,200 ล้านบาท แต่จะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท
พร้อมกับการออกโครงการดังกล่าวบรรดาห้างสรรพสินค้า หรือสินค้าที่ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ออกแคมเปญตอบรับเพื่อชิงเค้กก้อนนี้ทันที
น.ส.ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการ สายกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยาม พิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าออกแคมเปญ “สยาม ช็อป ช่วย ชาติ” เพียงช็อปและสะสมใบกำกับภาษีจากร้านค้าภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ครบ 15,000 บาทขึ้นไป รับทันที สยาม กิฟต์ การ์ด มูลค่า 1,500 บาท
นอกจากนี้ บริษัทสร้างแรงจูงใจกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยจับมือกับ 15 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ส่งมอบความสุขให้นักช็อปในช่วงเทศกาลแห่งการให้ ต้อนรับปี 2560 ด้วยบิ๊กแคมเปญสุดพิเศษ “สยาม ดิ อัลติเมท กิฟวิ่ง” (Siam The Ultimate Giving) ให้ช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดัง ลดสูงสุดถึง 80%
นางปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า เตรียมความพร้อมรองรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในช่วงนี้ อาทิ จัดรายการ “Central Season of Giving 2017 Extra” ลดราคาสินค้าทุกชั้น ทุกแผนก สูงสุด 50% ช็อปทุก 3,000 บาท รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 12.5% เมื่อใช้คะแนน The 1 Card รับสิทธิพิเศษเพิ่มจากบัตรเครดิตชั้นนำ และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
พร้อมกันนี้ยังอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ช็อปกันอย่างจุใจในช่วงเทศกาล ขยายเวลาปิดห้างบางสาขา เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เช่น สาขาชิดลม, สาขาลาดพร้าว, เซน จากเดิม 22.00 น. เป็น 23.00 น. ไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่
ช่วยลดขั้นตอนในการออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด โดยนำเครื่องสแกนบัตรประชาชนแบบ การ์ด รีดเดอร์ มาใช้ เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผลข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลบัตรประชาชน พร้อมเพิ่มจุดออกใบกำกับภาษีให้มากขึ้น
สำหรับลูกค้าที่มาช็อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ในช่วงวันที่ 22 ธ.ค.เป็นต้นไป จะได้ชมนิทรรศการ “ในหลวง…ในดวงใจราษฎร์: King of Our Hearts” ตอน พรภูมิพล: Blessings of Bhumibol ซึ่งเป็นเรื่องราวบอกเล่า ถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีทั้งหมด 49 เพลง
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มการตลาดบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า โฮมโปรมีความพร้อมที่จะตอบรับกับนโยบายของรัฐบาล ในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี จึงจัดโปรโมชั่นเพื่อประสานรับกับนโยบายดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าคนรักบ้านภายใต้แคมเปญ “ช็อปช่วยชาติ…ช็อปฉลาดสุดคุ้ม”
นอกจากโปรโมชั่นที่ขานรับกับนโยบายของทางรัฐบาลแล้ว “โฮมโปร” ยังขอมอบของขวัญชิ้นใหญ่แบบบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้ากับโปรโมชั่นคุ้ม 3 เด้ง คุ้มที่ 1 รับส่วนลดทันที 3% เมื่อช็อปผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ช็อปครบ 60,000 บาท รับฟรีเครื่องปั่น บดสับ มูลค่า 2,390 บาท หรือบัตรของขวัญโฮมโปรมูลค่า 1,500 บาท
ช็อปครบ 120,000 บาท รับบัตรของขวัญโฮมโปรมูลค่า 5,500 บาท ช็อปครบ 400,000 บาท รับฟรีทันทีบัตรของขวัญโฮมโปรมูลค่า 24,000 บาท
คุ้มที่ 2 ผ่อนชำระสินค้ากับสถาบันทางการเงินชั้นนำ 0% นานสูงสุด 4 เดือนทั้งร้าน
และคุ้มที่ 3 พิเศษสุดสำหรับลูกค้าสมาชิกโฮมการ์ด และบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ใช้คะแนนลดเพิ่ม 23% เมื่อใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ Happy Point วันศุกร์ ลดเพิ่ม 15% เมื่อใช้คะแนนสะสมโฮมการ์ดเท่ายอดซื้อสินค้า HomePro และ 20% เมื่อใช้คะแนนสะสมโฮมการ์ดเท่ายอดซื้อเมื่อซื้อสินค้า The Power
ขณะที่สินค้าหลักๆ หลายแบรนด์ก็จัดโปรโมชั่นด้วย เช่น เอไอเอส มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า รายเดือนที่มีอายุการใช้งาน 6 เดือนขึ้นไป เพียงเปิดเบอร์เพิ่มเลือกรับฟรีสมาร์ตโฟน “Samsung Galaxy J2” หรือรับส่วนลดค่าเครื่องในราคาพิเศษ อาทิ Huawei P9, Huawei GR5 2017, iPhone SE, Samsung Galaxy J7 Prime, Samsung Galaxy J5 Prime, VIVO V5 เป็นต้น
“AIS Hot Deal” จัดโปรฯ แรงกระแทกใจ ให้เป็นเจ้าของสมาร์ตโฟนสุดฮิตหลากหลายรุ่น พร้อมเล่นเน็ตได้ไม่จำกัด ในราคาลดพิเศษ อาทิ iPhone 7, 7 Plus, Huawei Mate 9, Samsung Galaxy J5 prime, AIS LAVA 4G VoLTE 870 เป็นต้น
ส่วนบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มีโปรโมชั่นลดราคาสมาร์ตโฟนแบรนด์ดังทุกรุ่นสูงสุด 10,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน พร้อมรับฟรีเน็ต 4G 48GB และสามารถรับใบกำกับภาษีได้ทันที ณ จุดขาย
อาทิ iPhone SE เริ่มต้นเพียง 6,400 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้น 699 บาท พร้อมชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้าตามที่กำหนด
iPhone 7 (128GB) ลดสูงสุด 9,500 บาท เมื่อสมัครหรือมีแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้น 899 บาท พร้อมชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้าตามที่กำหนด
Samsung Galaxy S7, S7 Edge, Note 5 (64GB), A9 Pro รับส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท
Huawei Mate 9, P9, P9 Plus รับส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท
ลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่กับดีแทค รับเน็ต 4G เพิ่มฟรี 48GB เมื่อสมัครแพ็กเกจรายเดือน Super NON-STOP, เต็ม MAX หรือ Tablet NON-STOP ตั้งแต่ 599 บาทเป็นต้นไป
นางจิราลักษณ์ ณ เชียงตุง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด กล่าวว่า เพาเวอร์บายทุกสาขามีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ พร้อมมอบส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมให้กับลูกค้าและผ่อนสบายๆ 0% กับบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ ที่สำคัญเมื่อลูกค้าซื้อบัตรของขวัญ 10,000 บาท รับเพิ่มทันที 300 บาท
นอกจากนี้ เพาเวอร์บายยังร่วมโครงการ “รวมใจ…ช่วยไทย…ลดรับปีใหม่” 15 ธ.ค.2559-4 ม.ค.2560 ของกระทรวงพาณิชย์ จัดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอที 30 กว่ารายการ ออกมาลดราคาถูกสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็น แอลอีดี ทีวี สมาร์ตทีวีจาก LG จาก 22,990 บาท เหลือเพียง 19,990 บาท เป็นต้น
“ลูกค้าที่ช็อปสินค้าจากแคมเปญดังกล่าวภายในวันที่ 31 ธ.ค.2559 สามารถนำใบกำกับภาษีไปลดหย่อนในโครงการช็อปช่วยชาติ ถือว่าเป็นความคุ้มค่าถึง 2 ต่อ”
มาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” ภาค 2 ถือเป็น “กระสุนนัดสุดท้าย” ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2559 นี้แล้ว
