พลังงานหวั่นน้ำมันดิบพุ่ง ไฟเขียวสนพ. ชดเชยราคาขายปลีกดีเซลไม่เกิน 30 สตางค์/ลิตร รับมือน้ำมันผันผวนไม่เกิน 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หวังตรึงดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นปี

กบง.ผวา!น้ำมันดิบพุ่ง – นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ออกประกาศอัตราชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในอัตราเพดานไม่เกิน 30 สตางค์ต่อลิตร ในกรณีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกระดับไม่เกิน 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเบื้องต้นให้สนพ. ชดเชยในระดับ 15 สตางค์ต่อลิตรก่อน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.เป็นต้นไป คาดใช้วงเงินไม่เกิน 180 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็นวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทจนถึงสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกผันผวนรุนแรงอยู่ในระดับสูงประมาณ 77-78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับประมาณ 60-62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เห็นได้ชัดเจนในช่วงเดือนมี.ค.เป็นต้นมา ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ปัจจุบันราคาปรับขึ้นอยู่ที่ประมาณ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนอ่อนลงอยู่ที่ 32-33 บาทต่อลิตร จากเดิมอยู่ที่ 31.40 บาทต่อลิตร

กบง.ผวา!น้ำมันดิบพุ่ง

โดยภาพรวมทั้งราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ราคาต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.46 บาทต่อลิตร ซึ่งเทียบกับราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลในประเทศช่วงเดือนมี.ค.อยู่ที่ 26.59 บาทต่อลิตร ถ้าบวกต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 4.46 บาทต่อลิตร จะทำให้ราคาดีเซลอยู่ที่ 31.05 บาทต่อลิต แต่ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้ค้ามาตรา 7 ทำให้ดีเซลอยู่ที่ 29.90 บาทต่อลิตร

“ดังนั้นกบง. จึงต้องการส่งสัญญาณให้มีการตื่นตัว ติดตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ต่างประเทศ ที่สหรัฐมีมาตรการกดดันอิหร่านจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้ อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอยู่ในระดับสูง ซึ่งหากราคายังอยู่ในระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เชื่อว่ามาตรการที่กบง. ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันน่าจะเพียงต่อในการรักษาระดับราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ แต่หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกผันผวนเกินระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกไปจนถึงสูงมาก ก็จำเป็นต้องหารือแนวทางรับมืออีกครั้ง”

นอกจากนี้ กบง. ยังมีนโยบายรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในประเทศที่ 363 บาทต่อขนาดถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีแอลพีจีมีเงินไหลออกสุทธิ 804 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้สถานะบัญชีแอลพีจีปัจจุบันติดลบ 3,337 ล้านบาท ขณะที่บัญชีน้ำมันไหลเข้า 26 ล้านบาทต่อเดือน สถานะบัญชีน้ำมันอยู่ที่ 29,359 ล้านบาท รวมสถานะกองทุนฯ ณ วันที่ 2 ก.ย.2561 มีฐานะสุทธิ 26,022 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน