ส.อ.ท.ชง ‘บิ๊กตู่’ ดันเมดอินไทยแลนด์วาระแห่งชาติ ระดมทูตพาณิชย์ส่งสินค้าศักยภาพไทยส่งออกทั่วโลก ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯวูบ หลังโดนพิษน้ำมันแพง บาทแข็ง สงครามยืดเยื้อ จับตาปีหน้าอ่วมแน่

ดันเมดอินไทยแลนด์วาระแห่งชาติ – นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภายในเดือนพ.ย.นี้ ส.อ.ท. เตรียมเสนอมาตรการผลักดันโครงการเมดอินไทยแลนด์ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมให้ใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งคนในประเทศ และต่างประเทศ เนื่องจากระยะหลังการค้าระหว่างประเทศมีการแข่งขันรุนแรง มีมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษีมีจำนวนมาก และมีสงครามการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เกิดขึ้น ส่งผลให้สินค้าต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดของไทยมากขึ้น รวมทั้งระยะหลังสินค้าไทยในหลายอุตสาหกรรม มีความแข็งแกร่ง เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล

สำหรับมาตรการที่เตรียมนำเสนอ เช่น ให้ทูตพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ รวบรวมความต้องการสินค้าในแต่ละประเทศว่าต้องการสินค้ากลุ่มใดบ้าง เพื่อนำเสนอสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยเข้าไปเจาะตามเป้าหมาย รวมทั้งให้ภาครัฐ และเอกชนจัดงานเมดอินไทยแลนด์ เพื่อแสดงสินค้าศักยภาพของไทย โดยเชิญทั้งผู้ประกอบการไทย และต่างประเทศเข้าร่วมงาน ขณะเดียวกันของในห้ภาครัฐ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคุฯภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นเครื่องมือนำไปสู่การยกระดับการผลิตของประเทศ

“ในอดีตยอมรับว่า สินค้าไทยยังไม่ค่อยได้มาตรฐาน แต่ตอนนี้อุตสาหกรรมไทยปรับตัวแล้ว มีความแข็งแกร่ง ได้มาตรฐานระดับสากล และตอนนี้ปัญหาสงครามการค้าทั่วโลกเริ่มรุนแรงขึ้น มีมาตรการกีดกันการค้ารูปแบบต่างๆ จึงอยากให้รัฐบาล ฟื้นเรื่องเมดอินไทยแลนด์ขึ้นมา ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการไทย จะอยู่ไม่ได้”

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ตั้งคณะทำงาน ร่วมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ภาครัฐ จัดซื้อจัดจ้างสินค้าไทย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากที่ผ่านมามีการประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ภาครัฐ ยังไม่ค่อยซื้อสินค้าไทยมากนัก จึงต้องหาแนวทางการส่งเสริมให้ภาครัฐหันมาจัดซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยตามพ.ร.บ.ฯ โดยไม่ขัดกับข้อตกลงองค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ ขณะเดียวกันส.อ.ท. จะรวบรวมฐานข้อมูลสินค้า เมดอินไทยแลนด์ ที่เชื่อถือได้ และพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อเป็นเครื่องมือแนะนำสินค้า สามารถค้นหาสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น แหล่งผลิต มาตรฐานการผลิต มาตรฐานสินค้า ให้คะแนนเรตติงสินค้าได้

ส่วนผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเดือนก.ย. พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง อยู่ที่ระดับ 91.5 ลดลงจาก 92.5 ในเดือนส.ค. เนื่องจากกังวลราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง กระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง ขณะที่ผู้ประกอบการส่งออกเห็นว่า เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคกระทบความสามารถในการแข่งขันลดลง รวมทั้งปัญหาความแออัดของท่าเรือที่ทำให้ความล่าช้าในการขนส่งสินค้า และเห็นว่า ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มยืดเยื้อ

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 106.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 105.6 ในเดือนส.ค. เพราะมีความชัดเจนของภาครัฐเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ประกอบกับ ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 อุปสงค์ของสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังมีการชัดเจนเลือกตั้ง เศรฐษกิจไทยจะดีในช่วงสั้น ส่วนระยะยาวขึ้นกับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศจะสร้างความเชื่อมั่นได้มากน้อยเพียงใด เชื่อว่า ปีหน้าการลงทุนเอกชนต่างประเทศทยอยเข้ามา โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุน หากการเลือกตั้งไม่มีปัญหาความมั่นใจจะสูงขึ้น สภาพการลงทุนในประเทศน่าจะดี และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจนมากหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการในอีอีซี และโครงข่ายคมนาคมในประเทศที่จะชัดเจนมากขึ้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน