นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายบัตรอีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2559 สิ้นสุดเดือนก.ย.2559 อีลิทการ์ดมีกำไรรวมกว่า 195.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 107.34 ล้านบท มีสมาชิกทั้งหมดรวมกว่า 4,037 ราย โดยเป็นสมาชิกใหม่ระหว่างปี2556-2559 ที่มาสมัครสมาชิกเฉลี่ยเดือนละ 60 ราย สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้กว่า 10%หรือรวม 1,529 ราย

เมื่อรวมทั้งยอดผู้สมัครและการใช้จ่ายของกลุ่มผู้สมัครทำให้มีสร้างเงินสะพัดทางการท่องเที่ยวเข้าประเทศรวมกว่า 1,727 ล้านบาท จากการสำรวจข้อมุลในช่วง ต.ค.2558-ธ.ค.2559 พบสมาชิกอีลอทการ์ดเดินทางเข้าออกประเทศ จำนวน 14,768 ครั้งใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 117,000 บาท/ปีซึ่งรายได้ที่สะพัดในการท่องเที่ยวของสมาชิกบยังไม่รวมค่าสมาชิกที่เก็บครั้งแรกรายละ 5 แสนบาทหรือรวมแล้วค่าสมาชิก 2,000 ล้านบาท ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม เพราะสมาชิกของอีลิทการ์ด ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุน ที่เข้ามาจะซื้อทั้ง คอนโดมิเนี่ยม บ้าน รถยนต์หรู

สำหรับสมาชิกที่มาสมัครหลังเปิดการขายปี 2556 พบว่าเป็นกลุ่มชาวยุโรปและญี่ปุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ อังกฤษ 198 ราย รองลงมาคือ จีน 149 ราย ฝรั่งเศส 128 ราย สหรัฐอเมริกา 126 รายและญี่ปุ่น 103 ราย รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางกลุ่มครอบครัวก็เริ่มมีการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่ม ชาวญี่ปุ่นยังถือเป็นกลุ่มที่มาอาศัยในประเทศไทยระยะยาว (ลองสเตย์) ซึ่งถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวศักยภาพที่ประเทศไทยต้องการอีกตลาดหนึ่ง

กลุ่มเป้าหมายของบัตรอีลิทการ์ด เราพยายามจะเน้นกลุ่มชาวต่าง ชาติที่มีคุณภาพ กำลังซื้อสูง ยิ่งถ้าในบางประเทศซื้อบัตรไปแล้วแต่มาใช้บริการน้อยๆ อย่างตลาดญี่ปุ่นจะยิ่งดี โดยในช่วงเดือนก.พ.นี้อีลิทการ์ดจะมีการปรับโฉมและออกรูปแบบบัตรใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงก็จะขยายตัวแทนเข้าไปสู่หลายๆประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจะเป็นพันธมิตรกับธุรกิจต่างๆ ทั้งพันธมิตรการเงินและเอกชนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน