แหล่งข่าวจากวงการธนาคารพาณิชย์ ระบุถึงกรณีครอบครัวกฤษดาธานนท์เตรียมร้องต่อศาลให้ระงับการขายทอดตลาดที่ดินของ บมจ.เอคิว เอสเตท หรือ กฤษดามหานครเดิม บริเวณบางนา-ตราดเนื้อที่กว่า 4,300 ไร่ เนื่องจากประมูลไปในราคาเพียง 8,914.07 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตร.ว.ละ 4,000 – 5000 บาทว่า ก่อนหน้านี้ นายวิโรจน์ นวลแข อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ยื่นหนังสือคัดค้านการประเมินราคาที่ดินไปก่อนแล้ว

หลังพบว่าการประเมินราคาที่ดินอิงราคาประเมินรายแปลงแยกอิสระไม่ใช่ผืนเดียวกัน ทำให้ที่ดินส่วนใหญ่ถูกประเมินว่าเป็นที่ตาบอดไม่มีทางเข้า-ออก ราคาจึงต่ำกว่าความเป็นจริงไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์คู่มือตามประกาศของกรมธนารักษ์ พ.ศ.2552 เพราะข้อเท็จจริงแล้ว ที่ดินทั้ง 215 แปลงจำนวน 4,300 ไร่ เป็นผืนเดียวกันและมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เดียวกัน จึงต้องถือเป็นที่ดินที่ต้องประเมินราคาเป็นแปลงเดียวกันทั้งโซน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เดิมที่ดินแปลงนี้ติดจำนองอยู่กับธนาคารกรุงเทพตั้งแต่ปี 2538 ประเมินราคาไว้กว่า 14,000 ล้านบาท และเมื่อขอรีไฟแนนซ์เงินกู้มายังธนาคารกรุงไทยช่วงปี 2543-2544 มี 2 บริษัทประเมินที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รับรอง คือ บริษัท อินชิคเนียบรุค(ประเทศไทย) และบริษัท ซาลแมนน์(ฟาร์อิสท์) จำกัด ประเมินราคาอยู่ที่ 14,000-16,000 ล้านบาท

เมื่อมาถึงปัจจุบันราคาต้องยิ่งสูงขึ้นจากความเจริญ อีกทั้งการที่รัฐบาลมีโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด เทรน) และสร้างเมืองใหม่รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ยิ่งทำให้มูลค่าที่ดินสูงขึ้นไปอีก แต่กลับขายทอดตลาดในราคา 8,914.07 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคาประเมินจากเมื่อ 17 ปีที่แล้วเกือบเท่าตัว นอกจากนี้หากขายทอดตลาดในราคาดังกล่าวจริง ยังส่งผลให้รัฐเสียหายจากการขาดรายได้ค่าธรรมเนียมจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

มีรายงานว่ากรมบังคับคดีจะประกาศการขายทอดตลาดนัดที่ 2 ในวันที่ 7 พ.ย.นี้ หลังจากที่ประกาศการขายทอดตลาดครั้งที่ 1 ไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2561 ซึ่งบริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ เป็นผู้ชนะประมูล ในราคา 8,914.07 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน