ธ.ก.ส. สั่งเร่งจ่ายเงินช่วยชาวนาปลูกข้าวนาปี 2561/62 เพิ่มอีก 5.1 หมื่นล้าน ภายใน 30 พ.ย.นี้ เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้จ่ายก่อนปีใหม่
เร่งจ่ายเงินช่วยชาวนาอีก 5.1 หมื่นล. – นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/2562 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวเจ้า และข้าวปทุมธานี 1 เพิ่มเติมอีก 3.6 ล้านราย วงเงิน 51,000 ล้านบาท ให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 2561 เพื่อให้เกษตรกร มีเงินทุนหมุนเวียน สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย ในการเก็บเกี่ยว และการนำข้าวเปลือกมาปรับปรุงคุณภาพโดยการลดความชื้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น หรือนำข้าวเปลือกไปเก็บไว้ในยุ้งฉางที่เหมาะสม
“ที่ผ่านมาธนาคารได้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก เกษตรกรโดยตรงไปแล้วทั้งสิ้น 361,457 ราย เป็นเงิน 5,612 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเร่งให้โอนจบภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ เพื่อให้เกษตรกรมีเงินไปใช้จ่ายก่อนปีใหม่ ส่วนเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันตกซึ่งจะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตล่าช้ากว่าภาคอื่นๆ นั้น ธ.ก.ส.จะร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นภายใน เดือนก.พ. 2562 นี้ เพื่อให้เงินถึงมือเกษตรกรโดยเร็วที่สุด”
นายศรายุทธ กล่าวว่า ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2561 ที่เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 ที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว กับกรมส่งเสริมการเกษตร ในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ตามพื้นที่ที่ปลูกข้าวจริงแต่ไม่เกินรายละ 12 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 18,000 บาท โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่จะได้รับประโยชน์ประมาณ 4.05 ล้านราย พื้นที่การผลิต 38 ล้านไร่ วงเงิน 57,722 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ
ขณะเดียวกัน การดำเนินโครงการดังกล่าว ธ.ก.ส. จะเร่งตรวจสอบข้อมูล รายชื่อเกษตรกรตามข้อมูลที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อนำมาสอบทานกับข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ที่ทำให้นาข้าวเสียหายและได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไปแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนตามเงื่อนไขของโครงการ พร้อมกับเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้แก่เกษตรกร
