น.ส.ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวถึงภาพรวมการจับจ่ายในปีนี้เชื่อมั่นว่าจะดีขึ้นจากปีแล้ว เห็นได้จากบรรยากาศการจับจ่ายปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงต้นปีนี้ ทาง 3 ศูนย์การค้าบริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายให้กับร้านค้าต่อเนื่อง ภายใต้งบทำตลาดรวมไว้ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน แบ่งเป็นงบฯ ทำตลาดในสยามพารากอน 600 ล้านบาท และอีก 600 ล้านบาทที่สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

ประเดิมจัดกิจกรรมใหญ่ และครั้งแรกของปีในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งรวมกันทั้ง 3 ศูนย์ ภายใต้งบฯ 50 ล้านบาท แคมเปญ‘สยามแมกนิฟิเซนท์ ไชนีสนิวเยียร์ 2017’ ระหว่างวันที่ 27-29 ม.ค.นี้ จัดขบวนพาเหรดสิงโตมงคลมอบโชค แจกอั่งเปามงคลที่จะเป็นบัตรกำนัลเงินสด คูปองส่วนลด และบัตรสิทธิพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาทให้กับลูกค้าทั้ง 3 ศูนย์ ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ทั้งร้านค้าในศูนย์ร่วมจัดโปรโมชั่น ลดราคาสูงสุด 70% ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-5 ก.พ.นี้ และยังร่วมกับพันธมิตรธนาคารกสิกรไทย สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย จะได้รับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดจากร้านค้าถึงวันที่ 12 มี.ค.นี้

“คาดว่าแคมเปญตรุษจีนนี้จะช่วยให้ยอดลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้ง 3 ศูนย์ได้กว่าวันละ 2 แสนคน และกระตุ้นยอดขายของร้านค้าในศูนย์เพิ่มขึ้น 15-20% จากการจับจ่ายของลูกค้าคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นลูกค้าหลักของฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติของทั้ง 3 ศูนย์มีสัดส่วนถึง 60% เพราะเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองปีใหม่และเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นนอกเหนือจากการแจกอั่งเปา และจัดโปรโมชั่นลดราคาสูงสุด 70%แล้ว ในตรุษจีนปีนี้ยังได้เตรียมแจกสินค้าที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจีน อย่าง นารายา และสินค้าสปา เมื่อซื้อสินค้าครบตามมูลค่า 3,000-10,000 บาทอีกด้วย”น.ส.ชนิสา กล่าว

น.ส.ชนิสา กล่าวว่า นอกจากการจัดกิจกรรมการตลาดแล้วทั้ง 3 ศูนย์การค้ายังได้เพิ่มร้านค้าใหม่อีก 40 ร้านค้า โดยเฉพาะร้านดังระดับโลก อย่าง ร้านอาหารเจมี่ส์ อิตาเลี่ยน ของเชฟดังระดับโลก เจมี่ส์ โอลิเวอร์ และร้าน LUSH แบรนด์ออร์แกนิคชื่อดังจากอังกฤษ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลก ซึ่งจากการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยตลอดปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 34 ล้านคน ดังนั้นทั้ง 3 ศูนย์ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงต้องสร้างความแข็งแกร่งด้วยการดึงร้านค้าดังมาเป็นแม่เหล็กใหม่ เพื่อจะแข่งขันกับจุดหมายปลายทางแห่งอื่นที่มีอยู่ทั่วโลก และผลักดันให้ยอดผู้ใช้บริการ รวมทั้งยอดขายของร้านค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปีที่แล้วยอดผู้ใช้บริการเพิ่ม 5-10% และยอดขายร้านค้าเติบโต 10-15%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน