การบินไทยฟุ้ง! ปีนี้มีกำไร-เลหลังเครื่องเก่าได้ 4 พันล้าน ชงซื้อเครื่องใหม่ 2 แสนล้าน!

วันที่ 16 ม.ค. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าอย่างช้าวันที่ 18 ม.ค.หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า จะนำเสนอแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ จำนวน 38 ลำ วงเงินประมาณ 2 แสนล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาอนุมัติ ก่อนที่จะเสนอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามลำดับ ซึ่งจะนำมาทดแทนครื่องบินเก่าที่กำลังจะปลดระวางจำนวน 31 ลำซึ่งจะทำให้ฝูงบินเพิ่มขึ้นเป็น110 ลำ โดย แบ่งการจัดหาเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1 จัดหา 25 ลำ ทดแทนเครื่องบินเก่า 19 ลำ และ ระยะที่ 2 จัดหา 13 ลำ ทดแทนเครื่องเก่า 12 ลำ คาดว่าจะเริ่มทยอยรับมอบตั้งแต่ปี2564 ส่วนแหล่งเงินทุนนั้นคาดว่าประมาณ 2-3เดือนจะสรุปรายละเอียดได้ต้องใช้เวลา เพราะบริษัทมีแรงกดดันจากอัตราหนี้สินต่อทุน(ดีอี)ของบริษัทที่มีสูงถึง8เท่า

เบื้องต้นจะนำมาบินเส้นทางเดิม แต่เพิ่มความถี่มากขึ้น คาดว่าจะทำให้ ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารซึ่งงคิดเป็นที่นั่งต่อกิโลเมตร (Available Seat-Kilometers : ASK) จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% ต่อปี นอกจากนี้ในช่วงที่ยังรอการส่งมอบเครื่องบินใหม่มีแผนเช่าเครื่องบินเพิ่มอีกขั้นต่ำ 2 ลำ

“ภาพรวมการบินปีนี้การแข่งขันยังรุนแรง ปัจจัยน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นความเสี่ยง แต่การบินไทยมีเส้นทางที่ดี และมีอัตราการบรรทุกทีดีเพราะมีเครื่องจำกัด เชื่อว่า สามารถแข่งขันได้ คาดว่าจะสามารถรักษากำไรจากการดำเนินการได้ไม่ต่ำกว่า ที่จะเป็น รายได้รวมคาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนคือกว่า 2แสนล้านบาท โดยปีนี้จะ ธุรกิจสนับสนุนมากขึ้น เช่น ครัวการบินไทย ธุรกิจศูนย์ซ่อม (MRO) อู่ตะเภาและดอนเมืองเป็นต้น”นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวว่า ในปีนี้ การบินไทยจะขายเครื่องบินเก่าได้รวม 16 ลำ คิดเป็นวงเงินรวม 4,000 ล้านบาท โดยสามารถบันทึกรายได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งผลจากการขายเครื่องบินครั้งนี้อาจจะทำให้บริษัทสามารถมีกำไรจาการดำเนินการเล็กน้อย

ส่วนสายการบินไทยสมายล์และนกแอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกนั้นตนจะเข้าไปนั่งเป็นประธานบอร์ดไทยสมายล์ซึ่งจะเข้าไปปรับให้นโยบายเชื่อมต่อกันมากขึ้น และจะช่วยเข้าไปบริหารต้นทุน เชื่อว่าจะผ่านวิกฤติไปได้ ส่วนนกแอร์ นั้นขณะนี้บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนอยู่แล้ว ซึ่งต้องรอดูผลปารประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 22 ม.ค. ซึ่งต้องรอว่าจะเพิ่มทุนหรือไม่ จากนั้นจึงจะตัดสินใจว่าจะเพิ่มทุนหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน