ปิดซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิคาดทำไฟลท์ดีเลย์วันละ 20 เที่ยวบิน นานสุด 20 นาที ช่วงเวลาวิกฤตคือ 05.-30-8.30 น. – การบินไทย บางกอกแอร์ ไทยสมายล์ โดนหนักสุด ทอท. เตรียมพื้นที่รองรับผู้โดยสารตกค้าง ชี้หากดีเลย์เกิน 1 ชั่งโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มฟรี

ทอท.ปิดซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ – น.ท. สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ทอท. สายการบิน และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ได้เตรียมมาตรการรองรับการเตรียมปิดทางวิ่งและทางขับฝั่งตะวันออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 15 พ.ค. 2562 และในช่วงที่ 2 จะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 8 พ.ย. 2562 – 6 เม.ย. 2563

ซึ่งในการปิดซ่อมช่วงแรกจะดำเนินการในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงรุ่งเช้า ระหว่างเวลา 01.30 – 08.30 น. เพื่อให้ผู้รับจ้างรื้อและซ่อมแซมพื้นผิวใหม่ ทั้งนี้ ทสภ. ยังคงให้บริการได้ตามปกติ โดยจะใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกให้บริการขึ้น-ลงของเที่ยวบินเพียงทางวิ่งเดียว ซึ่งสามารถรองรับได้ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และภายหลังจากเวลา 08.30 น. จะเปิดใช้งานทางวิ่งฝั่งตะวันออก ซึ่งจะทำให้มีทางวิ่งทั้ง 2 เส้น รองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบินตามปกติ

ทั้งนี้ จัดทำแผนและมาตรการรองรับการดำเนินงาน ด้วยการซ่อมบำรุงทางวิ่งฝั่งตะวันตกให้แข็งแรง,จัดแผนจราจรอากาศและภาคพื้น, แผนฉุกเฉินรองรับกรณีทางวิ่งฝั่งตะวันตกไม่สามารถให้บริการได้

ในระหว่างการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก เช่น อากาศยานเกิดอุบัติเหตุบนทางวิ่ง เป็นต้น โดยจะซักซ้อมเมื่อเกิดเหตุและกู้คืนได้เร็วอย่างมีประสิทธิภาพ, แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่เกิดเหตุขัดข้องออกจากทางวิ่ง กรณีมีอุบัติเหตุบนทางวิ่ง

นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนรองรับผลกระทบในอาคารผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินเกิดความล่าช้า ซึ่งอาจมีผู้โดยสารตกค้างจึงเตรียมพื้นที่รองรับผู้โดยสารไว้กว่า 2,700 ที่นั่ง แต่หากเที่ยวบินดีเลย์นานเกิน 1-1.30 ชั่วโมง จะมีอาหารเครื่องดื่มไว้รองรับโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และในช่วงที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทสภ. จะไม่อนุญาตให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว

นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) จำกัด กล่าวว่า การปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่ง จะส่งผลให้การรองรับปริมาณเที่ยวบินลดลงจากช่วงเวลาปกติที่รองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เหลือ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หรือคิดเป็น 50% ของช่วงเวลาปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง จะมีช่วงเวลาที่วิกฤตมากสุดคือ 05.-30 น.-8.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีเที่ยวบินยุโรปขาเข้าจำนวนมาก

และช่วงเวลา 7.30 น.-8.30 น. เป็นช่วงที่มีเที่ยวบินขาออกไปเอเชียมากเช่นกัน จึงคาดว่าจะมีเที่ยวบินได้รับผลกระทบเสี่ยงดีเลย์ไม่เกิน 20 เที่ยวบิน/วัน จากเที่ยวบินทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว 50 เที่ยวบิน โดยจะล่าช้าไม่เกิน 20 นาที หรือเฉลี่ย 10 นาที อาทิ การบินไทย บอกกอกแอร์เวย์ส ไทยสมายล์ และสายการบินอินเตอร์อื่นๆ

นายธีระ บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ กล่าวว่า ได้แจ้งสายการบินที่ได้รับผลกระทบให้สำรองน้ำมันไว้ ซึ่งปกติก็มีการสำรองไว้อยู่แล้ว แต่หากไม่สามารถลงได้จริงๆ ก็จะมีสนามบินอู่ตะเภารองรับในช่วงเวลาวิกฤต พร้อมทั้งได้ประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้อำนวยความสะดวกในการประทับตราให้ผู้โดยสารอย่างรวดเร็วด้วย ส่วนกรณีที่หากมีเที่ยวบินดีเลย์นานเกิน 2 ชั่วโมงและผู้โดยสารต้องการเปลี่ยนเที่ยวบินหรือเปลี่ยนวันเดินทางนั้นจะมีการพิจารณาเป็นกรณีไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน