นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปี 2559 ว่า กลุ่ม ปตท. มีรายได้จากการขาย 1.72 ล้านล้านบาท ลดลง 15% จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง โดยกำไรสุทธิของกลุ่ม ปตท. เพิ่มขึ้น 19,936 ล้านบาท อยู่ที่ 94,609 ล้านบาท จากปี 2558 อยู่ที่ 74,673 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการบันทึกมูลค่าการด้อยค่าทางบัญชีลดลงและมีกำไรจากสินค้าคงคลังแทนการขาดทุนรวม 70,000 ล้านบาท

ขณะที่ สภาพตลาดราคาน้ำมันและปิโตรเคมี ส่งผลกระทบต่อกำไรขั้นต้นลดลง 20,000 ล้านบาท แต่กลุ่ม ปตท. ดำเนินการเพิ่มผลผลิตในการดำเนินงานอย่างจริงจัง ทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ถึง 24,000 ล้านบาท ประกอบกับมีการลงทุนในธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ ทำให้ผลประกอบการของกลุ่มปตท. พลิกฟื้นเร็วกว่าบริษัทน้ำมันชั้นนำอื่นๆ หลายแห่งที่การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจต้นน้ำ

นายเทวินทร์ กล่าวว่า ตลอดปี 2559 ปตท. บรรลุการเจรจาสัญญาระยะยาวการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) กับบริษัท BP Shell และ Petronas รวม 3 ล้านตันต่อปี โดยผลการเจรจากับ BP และ Shell ทำให้ลดต้นทุนการนำเข้าแอลเอ็นจีตลอดอายุสัญญาได้ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท มีการเร่งดำเนินการขยายคลังรับแอลเอ็นจีแห่งที่ 1 จาก 5 ล้านตัน เป็น 10 ล้านตันต่อปี เริ่มใช้งานได้ในต้นปี 2560 และได้รับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขยายเป็น 11.5 ล้านตันต่อปีในปี 2562 รวมถึงอนุมัติการก่อสร้างคลังรับแอลเอ็นจี แห่งที่ 2 อีก 7.5 ล้านตันต่อปี ให้แล้วเสร็จในปี 2565 ประกอบกับ ปตท. ได้เริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซฯ บนบก เส้นที่ 5 เพื่อรองรับการใช้ก๊าซฯที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

สำหรับการดำเนินงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น ในปี 2559 ปตท. ได้ให้ส่วนลดราคากับรถโดยสารสาธารณะก๊าซเอ็นจีวี คิดเป็นมูลค่า 2,231 ล้านบาท และการสนับสนุนก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือนรายได้น้อยคิดเป็นมูลค่า 367 ล้าน บาท อีกทั้งสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชน โดยใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมควบคู่กับพลังงานธรรมชาติช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำของชุมชนบ้านภูเตย จ.กาญจนบุรี โดยการสร้างเครื่องตะบันน้ำเพื่อนำน้ำจากอ่างเก็บน้ำมาสู่ชุมชนเป็นผลสำเร็จ

นอกจากนี้ ได้ริเริ่มการใช้พื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) ปตท. ในการสนับสนุนโครงการประชารัฐสุขใจช็อป เพื่อจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นในปั๊ม 148 แห่งและมีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวนา ผ่านโครงการ “รวมพลังซื้อ ข้าวจากชาวนา” มียอดขายข้าวได้รวม 3,076 ตัน ผ่านปั๊ม 315 สถานี และใช้ปั๊มเป็นศูนย์รวมในการช่วยบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบภัยภาคใต้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน