‘ศิริ’ ฟุ้งอันดับความพร้อมของระบบพลังงานไทยดีขึ้น อยู่ที่ลำดับ 51 จาก 115 ประเทศ แต่ยังตามหลังสิงคโปร์ และมาเลเซีย

‘ศิริ’ฟุ้งอันดับดีขึ้น – นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมงาน “อาเซียนกับการเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านระบบพลังงานต่อการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต” ว่า จากการจัดอันดับของ World Economic Forum (WEF) หรือสภาเศรษฐกิจโลก ที่เป็นการวัดความพร้อมของระบบพลังงานต่อการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตในปี 2562 นี้ประเทศไทยได้รับลำดับที่ดีขึ้นจาก 54 มาอยู่ที่ลำดับ 51 จากการจัดลำดับทั้งหมด 115 ประเทศ แต่ในภูมิภาคอาเซียนนี้ยังตามหลังประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซียอยู่ เนื่องจากความพร้อมทางด้านบุคลากร กฎหมายและการจัดการที่เป็นระบบมากกว่า เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศนี้มีพื้นที่ของประเทศเล็กกว่าไทย จึงทำให้การจัดการทั่วถึงมากกว่า

“การจัดอันดับครั้งนี้ประเมินจากปัจจัยหลักประมาณ 5 ด้านได้แก่ 1. ด้านโครงสร้างด้านพลังงานโดยรวมของประเทศ 2. การลงทุนใหม่ๆ 3. ประสิทธิภาพของการกำกับดูแล 4. การเตรียมความพร้อมของบุลคลากรด้านพลังงาน และ 5. การพัฒนาที่ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิงคโปร์เป็นเกาะ พื้นที่ไม่กว้างการบริหารด้านพลังงานจึงครอบคลุมมากกว่า จึงสามารถเปิดให้มีการแข่งขันผลิตไฟฟ้าแบบเติร์ดปาร์ตี้ได้และให้ประชาชนเลือกใช้เองตามความพึงพอใจ ในขณะที่ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญอยู่มาก จึงต้องมีหน่วยงานกลางผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าวอยู่”นายศิริ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (พีดีพี 2018) ฉบับใหม่นี้จะส่งผลให้ลำดับของประเทศไทยนั้นสูงขึ้นอีกแน่นอน เนื่องจากมีการเพิ่มความสำพันธ์ด้านพลังงานกับประชาชนมากขึ้น ทั้งการเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) ภาคประชาชน ที่ตามแผน 10 ปีจะมีกำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ จะส่งผลให้การมีส่วนรวมของประชาชนในด้านพลังงานเพิ่มจาก 0% เป็น 10% และการเพิ่มใช้พลังงานหมุนเวียนที่ปลายแผน 20 ปี จะอยู่ที่ 30% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 14% ทั้งนี้ พีดีพียังกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่มั่นคง และการผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศที่คงที่กว่า 60% ตลอดระยะเวลา 15%

นายโรแบรโต้ บาคคา ประธานด้านพลังงานและผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตและกรรมการบริหาร WEF กล่าวว่า ชาติในกลุ่มประเทศอาเซียนจะมีบทบาทสำคัญต่อการเป็นผู้นำระดับภูมิภาคระบบพลังงานต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะเป็นชาติที่มีความพร้อมในการปฏิบัติการดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการเริ่มแนวทางทางการกำหนดนโยบายพลังงานในรูปแบบใหม่ๆ และการหาพันธมิตรความร่วมมือทางพลังงานซึ่งถือได้ว่าชาติในอาเซียนอยู่ในตำแหน่งที่ดี ที่แสดงความเป็นผู้นำในการผลักดันกลยุทธ์ระดับประเทศและระดับภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน