กรมการค้าภายใน ชี้ แค่ขอความร่วมมือไม่ทำโปร เหตุราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัว

จากกรณีราคาน้ำมันค้าปลีกขึ้นราคา เนื่องจาก กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หารือกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัย ให้เลิกนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสำหรับการบริโภค มาจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และให้ขายในราคาปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้น จนขวดขนาด 1 ลิตร ซึ่งเคยมีราคาที่ 24-25 บาท ขึ้นไปอยู่ที่ราคา 34-36 บาทนั้น

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวถึงกรณีที่การที่ห้างค้าปลีกหลายแห่งได้ปรับราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุนขวดขนาด 1 ลิตร จากเดิมที่จำหน่ายในราคาขวดละ 25-26 บาท เป็น ขวดละ 34 -35 บาท ว่า เป็นการขอความร่วมมือให้ผู้จำหน่ายขายในราคาที่สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ ปัจจุบันที่ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ ) ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 14-15 บาทต่อกก.เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวันนี้ปรับขึ้นมาที่ 19.50 -20 บาทต่อกก.ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำปาล์มบรรจุขวดควรจะปรับราคาอยู่ที่ประมาณ 34-35 บาทต่อขวด

และการทำโปรโมชั่นลดราคาของห้างสามารถทำได้แต่ไม่ควรขายในราคาต่ำกว่าทุนเพราะจะเป็นการกดดันราคาน้ำมันปาล์มดิบและผลปาล์มสดตกต่ำจนกระทบต่อเกษตรกร และพบว่า ขณะนี้มีหลายห้างที่ให้ความร่วมมือขายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่มีบางห้างยังไม่ให้ความร่วมมือยังขายต่ำกว่าทุนโดยใช้การวิธีการนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดยี่ห้อต่างๆ มาลดราคาเป็นกลยุทธ์ดึงลูกค้าเข้าห้างซึ่งนอกจากจะทำลายคู่แข่งแล้วยังทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบด้วย

โดยขณะนี้ราคาผลปาล์มสดปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ราคาอยู่ที่ 2 – 2.50 บาทต่อกก. ได้ปรับเพิ่มเป็น 3.50 บาทต่อกก.โดยในวันจันทร์นี้จะชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาปาล์น้ำมันอีกครั้ง

“ปีนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติราคาผลปาล์มตกต่ำอย่างมากเพราะปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบประมาณเกือบ 2,000 ล้านเพื่อพยุงราคาปาล์มให้ดีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรดังนั้น ห้างค้าปลีกต่าง ๆไม่ควรแข่งกันดั๊มพ์ราคาลงมา จนทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมทางการค้าโดยหากห้างค้าปลีกไม่ให้ความร่วมมือทางกรมฯสามารถใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเข้าไปดำเนินการได้ ทั้งนี้ ได้ขอร้องให้ผู้บริโภคเข้าใจถึง กรณีดังกล่าวด้วย” นายวิชัย กล่าว

สำหรับราคาปาล์มที่ปรับตัวดีขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากสต็อกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศ ได้ลดลงจากเดิมที่มีกว่า 3 แสนตันขณะนี้เหลือเพียง 250,000 ตัน จากมาตรการของรัฐบาลที่นำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้า ปริมาณผลผลิตลดลงจากเดิมที่เข้าโรงงานวันละ 65,000 ตัน เหลือเพียงวันละ 40,000 ตัน ไม่เกิดปัญหารถขนปาล์มติดขัดหน้าโรงสกัด เกษตรกรตัดปาล์มสุก นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10,บี20 รวมถึงบี 100 เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้น และแนวโน้มราคามีโอกาสปรับตัวสูงถึง 4 บาทต่อกิโลกรัม

กรมการค้าภายในไม่ได้มีคำสั่งให้ห้างปรับราคาน้ำมันปาล์มขวดสูงขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือให้ห้างสรรพสินค้ากำหนดราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ให้สอดคล้องกับต้นทุนและให้คำนึงถึงผลกระทบต่อราคาผลปาล์มที่เกษตรกรขายได้เท่านั้น เพราะที่ผ่านมา พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำมาเป็นระยะเวลานานแล้ว” นายวิชัย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน