พาณิชย์ขอเวลา 3 เดือนจัดการสต๊อกน้ำมันปาล์ม แจงไม่ได้มีคำสั่งหรือบังคับให้ห้างปรับราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสูงขึ้นแต่อย่างใด

ขอ 3 เดือนจัดการสต๊อกปาล์ม – นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากปัญหาสถานการณ์ปาล์มน้ำมันที่ไม่ปกติในปีนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำอยู่ที่ประมาณ 2.00 บาท/กิโลกรัม (ก.ก.) เนื่องจากปริมาณผลผลิตมากผิดปกติ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ กรมฯ จึงหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สมาคมโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม กฟผ. และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการดำเนินนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในปัจจุบันราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.50 บาท/ก.ก. และราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) อยู่ที่ 19.50- 20.00 บาท/ก.ก.

ที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำมาเป็นระยะเวลานาน และในส่วนของความเข้าใจผิดเรื่องราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวด กรมฯ ขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบและเข้าใจเจตนารมณ์ว่า กรมการค้าภายในไม่ได้มีคำสั่งหรือบังคับให้ห้างปรับราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสูงขึ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงการขอความร่วมมือให้สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยและห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน และคำนึงถึงผลกระทบต่อราคาผลปาล์มที่เกษตรกรขายได้เท่านั้น

สำหรับในส่วนของโรงงานสกัดก็ขอให้เสนอราคาที่สอดคล้องกับราคาผลปาล์ม โดยกรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กลไกตลาดปาล์มทั้งระบบในประเทศอยู่ในภาวะสมดุล อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสมีการกักตุนน้ำมันปาล์มแล้วนั้น ใครจะดำเนินการกักตุนนั้นไม่มีปัญหา เพราะล่าสุดสต๊อกปาล์มน้ำมันนั้นยังสูงอยู่ถึง 3 แสนตัน หากกักตุนก็ทำให้น้ำมันปาล์มหายไปจากตลาดได้

“กรมการค้าภายพอใจระดับหนึ่งที่ล่าสุดราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.50 บาท/ก.ก. และราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) อยู่ที่ 19.50-20.00 บาท/ก.ก. และยืนยันว่าขณะนี้ราคาผลปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่เกิน 3 บาท/ก.ก.แล้ว มีเพียงผลปาล์มไม่สุกสีเขียวที่ระดับน้ำมันต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานและพื้นที่ปลูกอยู่ไกลจากโรงงานเสียค่าขนส่งเท่านั้น ไม่ถึง 3 บาท/ก.ก. จากที่ก่อนหน้านี้ราคาต่ำกว่า 3 บาท/ก.ก. ทั้งนี้ เป็นผลความร่วมมือทุกฝ่ายใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น” นายวิชัย กล่าว

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในมีความเป็นห่วงว่าหลังจากราคาปาล์มน้ำมันในไทยปรับสูงขึ้นจะมีการลักลอบนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศตามแนวชายแดน ดังนั้น จะประสานไปยังกรมศุลกากรและหน่วยงานความมั่นคงเพื่อดูแลต่อไป

ด้านสถานการณ์สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบปรับลดลง จากเคยมีปริมาณมากกว่า 300,000 ตัน ล่าสุดเหลือเกือบ 300,000 ตัน ซึ่งกรมการค้าภายวางใจระดับหนึ่งเท่านั้น จะวางใจสถานการณ์ได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อระดับสต๊อกปาล์มน้ำมันดิบลดลงอยู่ในระดับ 250,000 ตันเท่านั้น โดยจะใช้เวลาบริหารจัดการประมาณ 3 เดือนนับจากนี้ไป ซึ่งกรมการค้าภายในจะเดินหน้าบริหารจัดการปาล์มน้ำมันเพื่อเพิ่มการใช้ CPO มากขึ้น ทั้งเพิ่มสถานีบริการน้ำมันจำหน่ายน้ำมันดีเซล ซึ่งปัจจุบันมีสถานีบริการจำหน่ายน้ำมัน B20 จำนวน 1,113 แห่ง จะเพิ่มเป็น 2,000 แห่งภายใน 2 เดือนนับจากนี้ รวมทั้งยังสนับสนุนการใช้น้ำมัน B100 ในภาคเกษตรกร โดยตั้งเป้าหมายการผลิตอยู่ที่ 9 ล้านลิตร/วัน (ปัจจุบันการผลิต 7.68 ล้านลิตร/วัน) จากบริษัทผู้ผลิต 14 บริษัท ซึ่งจะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบจากระบบได้ถึง 2.82 ล้านตัน/ปี

นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรชาวสวนปาล์มภาคกลางจากสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย มาให้กำลังใจอธิบดีกรมการค้าภายใน เห็นด้วยกับมาตรการที่ให้ร้านโมเดิร์นเทรดขายราคาน้ำมันปาล์มที่สอดคล้องกับต้นทุน และให้ใช้สินค้าอื่นมาส่งเสริมการขาย เพื่อพยุงราคาปาล์มน้ำมันของเกษตรกร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน