พิษเศรษฐกิจโลก-สงครามการค้าฉุด 6 เดือนแรกปีนี้ท่องเที่ยวหงอยขยายตัวเพียง 2% สร้างรายได้ 1 ล้านล้านบาท คาดไตรมาส 3 น่าจะปรับตัวดีขึ้น

พิษเศรษฐกิจโลก-สงครามการค้า – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนแรกปี 2562 (ม.ค.-20 มิ.ย. 2562) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ในภาวะทรงตัว โดยมีจำนวนทั้งหมด 19.9 ล้านคน ขยายตัวเพียง 2% สร้างรายได้รวม 1 ล้านล้านบาท ขยายขึ้น 3% เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากหลายภูมิภาคยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว หลังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรป และตะวันออกกลาง รวมทั้งสงครามการค้าเป็นปัจจัยหลักเข้ามากระทบเศรษฐกิจโลกรวมทั้งไทยด้วย

ทั้งนี้ การเติบโตของคู่แข่งขัน ผนวกกับปัจจัยภายในประเทศไทย เช่น การฟื้นตัวของตลาดจีนที่แผ่วลงในช่วงไตรมาส 2 และแนวโน้มเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า แต่จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือวีซ่า ออน อาร์ไรวัล (วีโอเอ) ของรัฐบาลส่งผลให้ภูมิภาคที่จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตดี ในภูมิภาคเอเชียใต้เพิ่มขึ้น 17% อาเซียนเพิ่มขึ้น 5% และอเมริกาเพิ่มขึ้น 3% ภูมิภาคที่จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ในภาวะทรงตัว คือ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น 0.1% แอฟริกาเพิ่มขึ้น 0.1% ยุโรปรวมถึงโอเชียเนีย ลดลง 0.7% และภูมิภาคที่จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัว ได้แก่ ตะวันออกกลางลดลง 6%

ตลาดที่เติบโตดีด้านจำนวนนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นตลาดระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย เติบโต 9%, มาเลเซีย โต 7%, ลาว เติบโต 4%, เวียดนาม เติบโต 4%, ไต้หวัน เติบโต 12%, ญี่ปุ่น เติบโต 11%, ฮ่องกง เติบโต 7%, เกาหลีใต้ เติบโต 6% และอินเดีย เติบโต 21% ขณะที่ตลาดระยะไกล ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และยุโรปตะวันออก เติบโต 5% เนื่องจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมา และเวียดนาม มีการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างเข็มแข็ง มีการเปิดเที่ยวบินเส้นทางใหม่ เช่น หลวงพระบาง-เชียงใหม่, กัวลาลัมเปอร์-หัวหิน, ญาจาง(เวียดนาม) -กรุงเทพฯ, เกิ่นเทอ (เวียดนาม)-กรุงเทพฯ, อิชิกาว่า-กรุงเทพฯ, บังกาลอร์(อินเดีย)-ภูเก็ต, รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบิน เช่น ไทเป (ไต้หวัน)-เชียงใหม่ (Air Asia) จาก 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 6 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และมีวันหยุดยาวต่อเนื่องพิเศษ 10 วันช่วง Golden week ของญี่ปุ่น

สำหรับไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7% เกือบทุกภูมิภาคมีแนวโน้มขยายตัว ส่วนใหญ่เป็นการฟื้นตัวกลับมาจากภาวะตลาดซบเซาอยู่ในแดนลบในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยตลาดเอเชียจะยังคงเป็นตลาดหลักที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะตลาดจีนหลังจากติดลบกว่า 10% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเริ่มเห็นการหดตัวที่น้อยลงตามลำดับในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางจะยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวอยู่จากการคว่ำบาตรเศรษฐกิจประเทศอิหร่าน และราคาน้ำมันโลกที่ผันผวน

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวชาวไทยครึ่งปีแรก ยังคงเติบโต เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายช่วง ทั้งเทศกาลขึ้นปีใหม่ สงกรานต์ วันสำคัญทางศาสนา และงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลที่ 10 ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ประกอบกับการขยายตัวของสายการบินเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยอยู่ที่ 77.5 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 5% และรายได้ 5.62 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ซึ่งภูมิภาคที่มีรายได้เป็นอันดับหนึ่ง (ยกเว้นกรุงเทพฯ) ยังคงเป็นภาคใต้ รองลงมาคือภาคเหนือ และภาคตะวันออก

ส่วนในไตรมาสที่ 3 คาดว่า ยังคงมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่ ททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และการเปิดเส้นทางบินข้ามภาคของสายการบินต้นทุนต่ำ รวมทั้งเป็นช่วงวันหยุดสำคัญต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกไม่ว่าจะเป็นภาวะการเงินโลกที่กลับมาตึงตัว ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทย รวมทั้งเป็นช่วงฤดูฝนและเปิดภาคเรียน จึงคาดว่าการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยจะเติบโตที่จำนวนคนมากกว่ารายได้ เน้นการเดินทางระยะใกล้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยอยู่ที่ 41.7 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 6% และรายได้ 2.80 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน