เทสโก้ โลตัส ปรับครั้งใหญ่ สาขาเอ็กซ์เพรส พร้อมย่อยส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ตเข้าสู่โมเดลร้านสะดวกซื้อ เพิ่มอาหารพร้อมทาน จับมือดอยตุงขายกาแฟสด รองรับสังคมเมืองโต สปีดขยายสาขาเพิ่มได้ 5 เท่า

เทสโก้ปรับใหญ่สาขาเอ็กซ์เพรส – นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับตัวครั้งใหญ่ โดยได้ปรับโฉมใหม่ของร้านสาขาเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ที่มีอยู่ 1,600 สาขา ให้เป็นไปในรูปแบบใหม่ คือ สด ง่าย และตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ด้วยเน้นจำหน่ายสินค้าการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารพร้อมรับประทานที่ได้เพิ่มเป็น 200-300 รายการ หรือเพิ่มขึ้นจากปกติ 15-20% และเพิ่มมุมจำหน่ายกาแฟสด ซึ่งได้ร่วมกับโครงการดอยตุง จำหน่ายกาแฟสดภายใต้แบรนด์ เทสโก้ คอฟฟี่

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอีกสองกลุ่ม คือ อาหารสด โดยรับซื้อตรงจากเกษตรกร และสินค้าแบรนด์เทสโก้ ที่พัฒนาเอสเอ็มอีให้เป็นผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เทสโก้ เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงมีเพิ่มบริการส่งพัสดุไปรษณีย์ ที่ได้ร่วมกับไปรษณีย์ไทย ให้ส่งด่วนสะดวก 24 ชั่วโมง ขณะนี้ได้มีการทดลองเปิดร้านเอ็กซ์เพรสรูปโฉมใหม่ไปแล้ว 30 สาขา และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า จึงมีแผนเพิ่มอีก 750 สาขาภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือขยายปีละ 250 สาขาต่อปี จากเดิมเอ็กซ์เพรสจะเปิดปีละ 50 สาขาต่อปี ดังนั้นจากนี้การขยายตัวของเอ็กซ์เพรสจะเพิ่มเป็น 5 เท่าตัวจากปกติ

ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงสาขาเดิม 1,600 สาขาให้เป็นรูปแบบใหม่ภายใน 3 ปีด้วย ส่วนสาขาขนาดใหญ่ในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต ได้ปรับลดขนาดให้เล็กลงตามความเหมาะสม ซึ่งพื้นที่ที่เหลือจะปรับเป็นร้านค้าพันธมิตรจำหน่ายเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์กีฬา และสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหาร ได้เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปแล้ว 20 สาขา ส่วนธุรกิจออนไลน์ก็จะมีการขยายพื้นที่ให้บริการมากขึ้น ผ่านทั้งทางช่องทางของเทสโก้ โลตัสเอง และออนไลน์มาร์เก็ตเพลสชั้นนำของประเทศ

“การปรับตัวครั้งนี้มาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสังคมเมืองนับเป็นเทรนด์สำคัญที่ส่งผลให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าเปลี่ยนไป ภายในปี 2573 คาดว่า 58% ของประชากรไทยจะอาศัยอยู่ในเมือง เพิ่มจาก 50% ในปัจจุบัน ดังนั้น เทสโก้ โลตัส จำเป็นจะต้องปรับรูปแบบค้าปลีกเพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ให้ดียิ่งขึ้น ส่วนงบการลงทุนเป็นไปตามที่บริษัทแม่ เทสโก้ ประกาศว่าจะใช้งบลงทุน 50,000 ล้านบาทต่อปีทั่วโลก และไทยเป็นประเทศที่สำคัญในการลงทุน แม้ว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคคนไทยในครึ่งปีหลังจะยังทรงตัว แต่ศักยภาพของตลาดยังมีอยู่ และผลประกอบการของเทสโก้ ในภูมิภาคเอเชียไตรมาสแรก (มี.ค.-พ.ค. 2562) เติบโต 2.6% ไทยเป็นตลาดหลักของเอเชีย ในขณะที่ทั่วโลกเติบโต 0.4%”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน