ศุภาลัย ลุยเปิด 22 โครงการครึ่งปีหลัง – แอลทีวีทำลูกค้ากังวลกระทบภาพรวมตลาดปีนี้หด 5-10% พร้อม เตรียมเปิดขายศุภาลัย ปาร์ค สถานีแยกไฟฉาย คอนโดใกล้รถไฟฟ้า-รพ.ศิริราช

จ่อเปิดขายศุภาลัย ปาร์ค – นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจครึ่งหลังของปี 2562 จะมีโครงการใหม่เปิดตัวทั้งสิ้น 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ 19 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทั้งในแง่ยอดขาย และยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ และส่งมอบมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก

ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างเปิดการขายโครงการ ศุภาลัย ปาร์ค สถานีแยกไฟฉาย มูลค่าโครงการ 2,270 ล้านบาท เบื้องต้นมีผู้สนใจและลงทะเบียนไว้แล้วเกือบ 1,000 ราย ทำให้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในช่วงวันเปิดขายระหว่างวันที่ 20-21 ก.ค.นี้ ไว้ที่ 50% รายละเอียดโครงการเป็นคอนโดมิเนียม 22 ชั้น รวม 2 อาคาร ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยที่พร้อมติดตั้งโฮมออโตเมชั่นมาให้ทุกห้องรวม 726 ยูนิต รูปแบบห้องมีตั้งแต่สตูดิโอ 29.5-31 ตร.ม. ขนาด 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอนพลัส เริ่มที่ 34-45 ตร.ม. 2 ห้องนอน ขนาด 64.5-74.5 ตร.ม. ในราคาขายเฉลี่ยตร.ม. 60,500 บาท หรือราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 2.03 ล้านบาท ที่ทำเลที่ตั้งโครงการ 330 เมตรถึงรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสถานีแยกไฟฉาย ที่กำลังจะเปิดให้บริการจริงในเดือนก.ย.นี้ และเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมในย่านฝั่งธนที่บริษัทพัฒนาที่ดินได้ทยอยเข้ามาเปิดโครงการรวมแล้ว 11 โครงการ มูลค่ากว่า 27,000 ล้านบาท โดยราคาขายเฉลี่ยที่ตร.ม. 80,000-90,000 บาท

“ทำเลสามแยกไฟฉาย ไม่ไกลจากโรงพยาบาลศิริราชมากนัก ทำให้มีความต้องการทั้งผู้ที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ นักศึกษาแพทย์ ตลอดจนญาติผู้ป่วยที่ต้องเดินทางมารักษาพยาบาลครั้งละนานๆ ซึ่งปัจจุบันพบว่าหอพักและอพาร์ตเมนต์ในย่านนี้เต็มเกือบหมด ทำให้มีโอกาสทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า”

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม

นายไตรเตชะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของสภาพเศรษฐกิจขณะนี้ ทุกคนต้องปรับตัวกันในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะด้านผลกระทบจากการเริ่มบังคับใช้มาตรการแอลทีวีใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ชะลอลงชัดเจนทั้งการขายและการเปิดโครงการใหม่ เพราะเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ลูกค้าชะลอการตัดสินซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไร ซึ่งเคยสร้างความคึกคักให้กับตลาดหายลงไปอย่างมาก และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดโครงการใหม่เพื่อรอดูทิศทางของตลาด โดยบริษัทมองว่าในช่วงไตรมาส 2 และ 3 นี้ อาจจะเป็นช่วงต่ำสุดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่จะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4 แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดอสังหาริทรัพย์ไนปีนี้มองว่าจะหดตัว 5-8%

โดยในส่วนของบริษัท ก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการแอลทีวี ทั้งลูกค้าที่เข้าดูและซื้อโครงการหายไป 8-10% เนื่องจากลูกค้าบางรายอาจไม่เข้าใจเกณฑ์แอลทีวีทำให้กังวลใจ ในขณะที่ลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร ก็ยังทรงตัวที่ 9-10% และแม้ว่าแอลทีวีจะมีผลกระทบกับบริษัทบ้าง แต่ยอดขายในไตรมาส 2 ปีนี้ ก็ยังถือว่าสูงกว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เนื่องจากมียอดขายจากโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร เข้ามาช่วยหนุน และมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะทำได้ตามเป้า 3.5 หมื่นล้านบาท

ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทยังมีสต๊อกบ้านและคอนโดมิเนียมเหลือขายมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นบ้านแนวราบ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะระบายหมดภายใน 2 เดือน ส่วนประเภทคอนโดมิเนียม เหลือขายประมาณ 10,000 ล้านบาท หลักๆ จะอยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาขายประมาณ 2-3 ปีจากนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน