‘สุริยะ’ ปัดฝุ่น ลั่นขอพิสูจน์ฝีมือ 100 วัน – ชี้กลับมาถิ่นเดิมเป็นครั้งที่ 4 ต้องทำงานหนักมากขึ้น พร้อมโต้ฝ่ายค้านเล็งเป้าอภิปราย

‘สุริยะ’ขอพิสูจน์ฝีมือ100วัน – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังเข้าสักการะพระนารายณ์ พระภูมิ พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลา 08.00 น. ว่า ส่วนตัวขอเวลาพิสูจน์ฝีมือการทำงานให้เห็นผลงานชัดเจนภายใน 100 วัน มั่นใจหลังรัฐบาลแถลงนโยบายจะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภาคอุตสาหกรรมช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ จากที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการเมืองที่ไม่มีความชัดเจนส่งผลให้การลงทุนชะลอตัวตามไปด้วย แต่จากนี้ไปเชื่อว่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น

“ยอมรับว่าขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังถดถอย ทำให้การกลับมาทำงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมครั้งนี้ของผม ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 คงต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยจะประสานการทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมทั้งจะพิจารณาตัวแทนภาคเอกชนเข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษา และจะหาโอกาสลงพื้นที่อีอีซีเป็นพื้นที่แรกเพื่อศึกษาแนวทางสำหรับเป็นต้นแบบนำไปพัฒนาในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ภาคอีสาน ที่มีศักยภาพและยังมีความเหลื่อมล้ำสูง ซึ่งต้องหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีต่อไป”นายสุริยะกล่าว

นอกจากนี้ ต้องทะลวงท่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีเพื่อส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและนวัตกรรมได้อย่างแท้จริงมากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี มีมาตรการสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นในประเทศมากขึ้น ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดรอบด้านก่อนพิจารณา

ส่วนการตกเป็นบุคคลเป้าหมายอาจถูกอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจครอบครัวนั้น นายสุริยะกล่าวยืนยันว่า หากถูกอภิปรายจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น โดยเฉพาะเรื่องพี่น้องที่พี่ชายคนที่ 2 เป็นบิดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพี่ชายคนโตที่ประกอบธุรกิจชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ เพราะส่วนตัวคงจะไม่ออกนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของพี่น้องแน่นอน เพราะธุรกิจของพี่ชายนั้นสร้างมาด้วยวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และที่ผ่านมาครอบครัวก็ไม่ได้ต้องการให้การเมืองเข้ามาโยงใยกับธุรกิจอยู่แล้ว เพราะอาจยิ่งทำให้ประกอบธุรกิจได้ยากลำบากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน