กรมการค้าภายใน เซ็นจ้างเอกชนผลิตข้าวเหนียวถุงดีเดย์ 15 ก.ย. งบ 5 ล้านบาท สิ้นเดือนถึงมือร้านธงฟ้าฯ หวังช่วยชาวบ้านพ้นวิกฤติข้าวเหนียวแพง

จ้างเอกชนผลิตข้าวเหนียวถุง – นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด กล่าวว่า ในวันที่ 6 ก.ย. บริษัทได้ลงนามในสัญญาผลิตข้าวเหนียวถุงขนาด 2 กิโลกรัม (ก.ก.) และ 5 ก.ก. เพื่อจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ ในช่วงที่ข้าวเหนียวมีราคาแพง โดยมีเป้าหมายผลิตจำนวน 2-3 แสนถุง หรือ 300 ตัน ตามเป้าหมายของกรมการค้าภายในที่ต้องการช่วยเหลือผู้บริโภค ได้ซื้อข้าวเหนียวในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป โดยบริษัทจะรับหน้าที่ในการจัดทำบรรจุภัณฑ์และกระจายไปยังร้านธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศ กว่า 4 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทจะต้องดำเนินการภายในวันที่ 15 ก.ย. และบรรจุถุงในวันที่ 17 ก.ย. จากนั้นก็กระจายสินค้าไปยังร้านธงฟ้าให้ครบภายในสิ้นเดือนก.ย. นี้

“กรมการค้าภายใน มีการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั้งโรงสี ผู้ผลิตข้าวถุง ให้ข้าวเหนียวกับบริษัทเพื่อจะได้นำไปบรรจุถุง แต่ในส่วนของบริษัทก็จัดหาข้าวเหนียวมาด้วยตนเองด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนั้นบริษัทจะสำรองจ่ายไปก่อน ซึ่งจะใช้งบประมาณครั้งนี้ 5 ล้านบาท หลังจากนั้นจะเรียกเก็บเงินจากกรมการค้าภายใน ซึ่งสาเหตุที่บริษัทรับหน้าที่ในการผลิตข้าวถุงครั้งนี้เพราะต้องการช่วยให้สถานการณ์ราคาข้าวเหนียวคลี่คลายลง” นายศุภชัย กล่าว

สำหรับการกระจานสินค้าเข้าร้านธงฟ้านั้นกรมการค้าภายในจะเลือกร้านค้าขนาดกลางและเล็ก ที่สั่งข้าวปริมาณ 100-200 ก.ก. ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้ประกอบการร้านธงฟ้าประชารัฐรายใหญ่ที่มีสาขาจำนวนมากขอสั่งข้าวเป็นจำนวนมาก เพื่อกระจายในร้านสาขา ซึ่งกรมการค้าภายในห่วงว่าอาจเป็นช่องทางในการกักตุนสินค้า กรมจึงตัดรายใหญ่ออก

ทั้งนี้ สำหรับข้าวที่จะบรรจุถุงขายครั้งนี้ เป็น ข้าวสารเหนียว 10% บรรจุถุงในแบรนด์กรมการค้าภายใน ขนาด 2 ก.ก. และ 5 ก.ก. จำนวน 200,000-300,000 ถุง เพื่อให้กรมนำออกมาจำหน่ายบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชนจากปัญหาราคาข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้น

เบื้องต้นกำหนดราคาจำหน่ายไม่เกิน ก.ก.ละ 35 บาท ต่ำกว่าราคาท้องตลาดประมาณ ก.ก.ละ 5 ถึง 10 บาท จากราคาตลาดที่ ก.ก.ละ 45-50 บาท หรือข้าวถุง 2 ก.ก. ราคาถุงละ 70 บาท และ ข้าวถุง 5 ก.ก. ถุงละ 175 บาท ส่วนช่องทางจำหน่าย จะกระจายไปยังพื้นที่ที่คาดว่าประชาชนที่บริโภคข้าวเหนียวจะได้รับความเดือดร้อน เช่นภาคเหนือบางส่วน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผ่านร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าประชารัฐ) ประมาณ 40,000 แห่ง และผ่านทางห้างค้าปลีก

โดยกำหนดเงื่อนไขให้จำหน่ายรายละไม่เกิน 3 ถุง สำหรับข้าวขนาด 2 ก.ก. และรายละ 1 ถุงสำหรับข้าว 5 ก.ก. ทั้งนี้ ร้านธงฟ้าฯ ซื้อได้ทั้งผู่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนทั่วไป ส่วนห้างค้าปลีกจะให้สิทธิ์เฉพาะคนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) แต่มีเงื่อนไขว่าสำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องนำบัตรไปแสดงเพื่อซื้อข้าวได้จากร้าน และผ่านทางห้างค้าปลีกให้ประชาชนทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน