นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2560 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.4% และในปี 2561 จะขยายตัว 3.6% โดยได้รับปัจจัยบวกจากการส่งออกที่ฟื้นตัว ชัดเจนในหลายกลุ่มสินค้า ซึ่งคาดว่ามูลค่าส่งออกสินค้าในปี 2560 จะขยายตัวที่ 2.2% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวเร็วและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และการใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้จากโครงการประชารัฐ

“เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ต่ำกว่าเป้าหมายมีเพียงปัจจัยเดียวคือภาคการส่งออกขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศขอสหรัฐ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงด้านบวกให้ขยายตัวได้กว่าเป้าหมาย คือการลงทุนของภาครัฐ สามารถเบิกจ่ายได้เป็นไปตามแผน ส่งผลต่อภาคเอกชนให้เกิดการลงทุนตาม เพิ่มเติมจากการการลงทุนที่ได้รับผลบวกจากการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว”นายจาตุรงค์ กล่าว

นายจาตุรงค์ กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุถึงกรณีที่สหรัฐขาดดุลการค่ากับไทยว่า เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไปในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ ว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างไร ในระหว่างที่ไม่ทราบว่ามีประเทศไทยบ้างที่สหรัฐจะดำเนินการ คงไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ และแม้ว่าจะดำเนินการตอบโต้ หรือกีดกันทางการค้าจริง กระบวนการต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่ง ไม่ใช่ใกล้ๆ นี้ เพราะต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศว่ามีสินค้าส่งออกรายการใดบ้างได้เปรียบหรือเสียเปรียบโดยไม่สมควร

สำหรับมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้คงอัตราดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี เป็นการส่งผ่านดอกเบี้ยนโยบายที่มีมากกว่าที่ประเมินไว้ จากดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อใหม่ (NLR) ที่เข้าถึงสินเชื่อในดอกเบี้ยที่ต่ำลงมากขึ้น ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐที่ผ่านมา ไม่กระทบต่อต้นทุนระดมทุนของธุรกิจไทยมากนัก อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำให้เงินทุนไหลออกและค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลงบ้าง แต่ไม่มากจนน่ากังวล เพราะไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง

ส่วนกรณีพิพาทระหว่างสหรัฐกับซีเรียนั้น มองว่ายังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันบ้าง ซึ่งยังไม่มากเท่ากับกรณีกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน ประกาศลดกำลังการผลิต ซึ่งจะส่งผลต่อราคามากกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน