ผลสำรวจเผย ประชาชน แห่ใช้จ่ายผ่านมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ คาดเงินสะพัด 3 หมื่นล้าน ส่วนกินเจขยายตัว ต่ำสุดรอบ12ปี ชี้ เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

25 ก.ย. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นของประชาชน 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศเรื่องการใช้จ่ายผ่านมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ พบว่า ประชาชนจะนำเงินไปใช้

เช่น ที่พัก เดินทาง กว่า46.9 % เงินที่เฉลี่ย 2250 บาท รองลงมาเป็น ชิม 31.2% เงินที่จะจ่าย 990 บาท และช้อป 21.9% เงินที่จะใช้ 1,300 บาท รวมๆ เฉลี่ย น่าจะใช้คนละ ประมาณ 4,500 บาท โดยมองว่า การลงทะเบียนที่คึกคักต่อเนื่องตลอด 4 วัน สะท้อนได้ว่าประชาชนจะจับจ่ายใช้สอย และเชื่อว่าจากคนที่ลงทะเบียน 10 ล้านคนจะไปใช้จ่ายทุกคนเกือบร้อยเปอร์เซ็น

โดยจะมีเงินเข้าสู่ระบบ 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งขั้นตอนของการใช้สิทธิ์ในโครงการที่บางส่วนมองว่าซับซ้อนไม่น่ากระทบกับการใช้จ่ายและคาดว่า เงินที่จะเข้าสู่ระบบจากโครงการ ชิม ช้อป ใช้ ประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ถึง 3-3.26 %

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังได้ทำการสำรวจ พฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. ถึง 7 ต.ค.2562 พบว่า ปีนี้ประชาชน 38.4 % ตั้งใจจะกินเจ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากตั้งใจที่จะทำบุญโดยลดการกินเนื้อสัตว์ และเริ่มเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมของคนที่รักสุขภาพมากขึ้น

แต่ส่วนใหญ่จะไม่กินตลอดเทศกาล จะเลือกกินเพียงบางมื้อเท่านั้น เพราะแม้จะมีการวางแผนใช้จ่ายเท่าเดิม แต่ราคาสินค้าแพงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งค่าอาหารเจที่หันมาซื้ออาหารปรุงสำเร็จและสั่งออนไลน์มากขึ้น

รวมถึงค่าทำบุญและค่าเดินทางไปทำบุญเฉลี่ยคนละ 11,000 บาท สูงกว่าปีที่แล้วที่เฉลี่ยคนละ 10,936 บาท ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้อยู่ที่ 46,549 ล้านบาท แม้จะขยายตัว 1.3 % แต่เป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ทำการสำรวจมา

อย่างไรก็ตาม แม้การใช้จ่ายในเทศกาลกินเจปีนี้จะสะท้อนว่ามีความคึกคัก แต่ยังเห็นภาพของการระมัดระวังการจับจ่าย เพราะประชาชนตั้งใจที่จะไม่กินเจตลอดเทศกาลมากขึ้น และยังมองว่าขณะนี้ เศรษฐกิจยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ส่วนผลกระทบจากภัยน้ำท่วมสร้างความเสียหายประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท แต่หลังจากนี้จะมีงบเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม และการซ่อมแซมก่อสร้างในพื้นที่ รวมทั้งมาตรการประกันรายได้เกษตรกรที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องที่จะเข้าเสริมภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปีนี้ได้ แต่ปัจจัยภายนอกประเทศทั้งสงครามทางการค้า และการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษที่สถานการณ์ผ่อนคลายมากขึ้น


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน