เปิดมุมมอง-‘ปธ.อนันดาฯ’ช่วง‘นาทีทอง’ผู้ซื้ออสังหาฯ
เปิดมุมมอง-‘ปธ.อนันดาฯ’ช่วง‘นาทีทอง’ผู้ซื้ออสังหาฯ – ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมา เมืองไทยเห็นชัดเจนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า แม้รัฐบาลจะหามาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือ อาทิ ชิมช้อปใช้ หรือเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สินค้าคงทน เช่น รถยนต์ หรืออสังหา ริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ยอดขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
จนแต่ละบริษัทต้องอัดแคมเปญกระตุ้นกันสุดๆ
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ตลาดเป็นของผู้บริโภคโดยแท้จริง
ถือเป็นจังหวะที่ผู้บริโภคสามารถต่อรองราคากับผู้ประกอบการได้ สำหรับผู้ที่ซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันในปีนี้
ส่วนการแข่งขันคงไม่ลดราคากันดุเดือด นอกเสียจากว่ามีผู้ประกอบการบางรายจำเป็นเพราะประสบปัญหาสภาพคล่อง
ที่สำคัญคือสถานการณ์ราคาที่ดินในขณะนี้ก็ ยังไม่ได้ลดลง หากขายลดราคาเพื่อหวังระบายสต๊อกคอนโดมิเนียมเก่า และไปขยายโครงการใหม่นั้น เชื่อว่าจะไม่สามารถซื้อที่ดินได้ในราคาเท่าโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ แล้ว
ประกอบกับสถานการณ์การคลังของไทยในขณะนี้มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงต่อเนื่อง
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ชะลอซื้อ เพราะเหตุผลด้านจิตวิทยาของผู้บริโภคที่ได้รับข่าวเชิงลบตลอดเวลา
อย่างไรก็ดีในส่วนของรัฐบาลก็พยายามทำ หน้าที่ หรือกระทั่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อต้องการชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์
ในส่วนของบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขาย และยอดโอนกรรมสิทธิ์ ในปี 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน
เดิมวางเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ปีนี้ไว้ที่ 29,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 10,080 ล้านบาท
ขณะที่เป้าหมายยอดขายรวมปีนี้เดิมกำหนดไว้ที่ 28,300 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา มียอดขายแล้ว 15,000 ล้านบาท
บริษัทไม่ต้องการฝืนสถานการณ์ตลาดเพราะมอง ว่าอาจเหนื่อยฟรี ทำให้ปรับแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในปีนี้เหลือ 6 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท จากเดิมบริษัทมีแผนจะเปิดตัว 10 โครงการใหม่ในปีนี้ มูลค่ารวม 38,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาเปิดขายไปแล้ว 2 โครงการ และช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะทยอยเปิดขายอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ด้วยจุดขายคุ้มค่าบนทำเลศักยภาพ ในระดับราคาตั้งแต่ 1.59-5.73 ล้านบาท หรือราคาต่อตร.ม. เริ่มที่ 62,000-149,000 บาท
จะทยอยเปิดขายตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป และคาดหวังยอดขายอย่างน้อย 40% หรือกว่า 5,200 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการไอดีโอ จุฬา-สามย่าน สูง 34 และ 35 ชั้น จำนวน 773 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เปิดขาย 9-10 พ.ย.นี้
ไอดีโอ สุขุมวิท-พระราม 4 สูง 32 ชั้น จำนวน 642 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เปิดขาย 16-17 พ.ย.นี้
โครงการไอดีโอ จรัญฯ 70-ริเวอร์วิว สูง 38 ชั้น จำนวน 1,421 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท เปิดจองผ่านออนไลน์วันที่ 5 พ.ย.นี้
และโครงการคิว ประสานมิตร คอนโดมิเนียม 7 ชั้น สร้างเสร็จก่อนขาย พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที จำนวน 76 ยูนิต ราคาเริ่มต้นกว่า 5 ล้านบาท เปิดขายวันที่ 8-10 พ.ย.นี้
เห็นมุมมองแบบนี้แล้วใครที่มีความมั่นคงทางการเงิน และสนใจเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ รีบคว้า ‘นาทีทอง’ ไว้ให้ดี