นกแอร์ ลั่นปี’63 ผู้โดยสารทะลุ 10 ล้าน – มั่นใจปัญหาการดีเลย์จะหมดไป ลุยรับมอบเครื่องเพิ่ม 4 ลำ-เปิดรูทบินใหม่เพียบ “จีน-อินเดีย-ญี่ปุ่น” ตั้งเป้าเปิดขายสินค้าออนไลน์กลางปีหน้า-เปิดขายตั๋วผ่านซีเอ็ดบุ๊ค

นกแอร์ลั่นปีหน้าไม่ดีเลย์แล้ว – นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ผู้ให้บริการสายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนกแอร์มีสภาพคล่องดีขึ้นจากเดิม เนื่องจากได้มีการกู้เงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่มาเสริมสภาพคล่องจำนวน 3,000 ล้านบาท และจะมีการเสนอแผนฟื้นฟูให้บอร์ดนกแอร์ปีหน้า เนื่องจากบอร์ดให้ฝ่ายบริหารมาปรับปรุงแผนให้มีความสอดคล้องกับภาวะการแข่งขันสูงของธุรกิจการบิน โดยจะเร่งปรับภาพลักษณ์การให้บริการของนกแอร์ ลดปัญหาการดีเลย์ในทุกเที่ยวบิน ซึ่งมั่นใจว่าในปีหน้าปัญหาการดีเลย์จะหมดไป เนื่องจากได้มีการทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการสต๊อกอะไหล่ อุปกรณ์ สแปพาสชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องบิน หากเกิดปัญหาด้านเครื่องยนต์จะซ่อมได้ทันทีไม่ต้องรอซ่อม 3-4 วันเหมือนในอดีต

สำหรับผลการดำเนินการปี 62 ว่า ช่วง3ไตรมาสที่ผ่านมา นกแอร์ขาดทุนลดลงเกิน 50%แล้ว คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขาดทุนลดลงอีก เนื่องจากปีนี้นกแอร์จะรับมอบเครื่องเช่า คือ โบอิ้ง 737-800 จำนวน 2 ลำมาทำการบิน ซึ่ง จะทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตผู้โดยสารได้10% รวมทั้งจะมีการปรับเพิ่มระยะเวลาการใช้เครื่องบินต่อวันจาก11ชั่วโมง เป็น 12 ชั่วโมงทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น คาดว่าสิ้นปีจะมีจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 7-9 ล้านคน

วุฒิภูมิ จุฬางกูร

นายวุฒิภูมิ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจ ในปี 2563 คาดว่าภาวะการแข่งขันในธุรกิจการบินจะรุนแรงกว่าปี นี้ เนื่องจากสายการบินต่างๆ มีการสั่งซื้อเครื่องบินใหม่จำนวนมาก ทำให้นกแอร์ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันโดยเร่งเพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนการเพิ่มรายได้ปี 2563 นั้นนกแอร์ จะทยอยรับมอบเครื่องเช่า โบอิ้ง 737-800 อีก 2 ลำ ในเดือนส.ค. และ ต.ค. โดยมีแผนจะนำเครื่องเข้าไปบินเสริมบางเส้นทางของนกสกู๊ต นำร่องเส้นทาง ดอนเมือง-หนานหนิง และจะเพิ่มจุดบินในประเทศอีก 2 แห่งคือปลายทาง เชียงใหม่และภูเก็ต

“ปีหน้านกแอร์ จะขยายสัดส่วนเส้นทางบินในต่างประเทศให้เพิ่มจาก 20% เป็น 30% โดยมีแผนที่จะเปิดเส้นทางบินเพิ่ม 3 ประเทศ คือญี่ปุ่น อินเดีย และจีน อาทิ ดอนเมือง-โอกินาวา ดอนเมือง-คาโกชิมะ ดอนเมือง-วิสาขพนัม ดอนเมือง-อี้อู, ดอนเมือง-เห่อเป่ย เป็นต้น และยังอยู่ระหว่างการศึกษา เปิดบินเชื่อมต่อไปยังสนามบินเบตงที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการกลางปีหน้าด้วย ซึ่งอาจจะบินในลักษณะการเชื่อมต่อ3จุดหมายหลายทางคือ ดอนเมือง-หาดใหญ่-เบตง”

นายวุฒิภูมิ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 มีแผนที่จะเปิดบริการขายสินค้าออนไลน์ด้วย โดยเน้นสินค้าแก็ตเจ็ต หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับอิเล็คทรอนิกส์ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กโดยเฉพาะผู้โดยสารในเส้นทางประเทศอินเดียพบว่ามีความต้องการซื้อโทรทัศน์จอแบจำนวนมาก รวมทั้งเปิดบริการไวไฟบนเครื่องบิน

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า นกแอร์จะปรับกลยุทธ์การขายครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าที่จะขายตั๋วพรีเมียมบางที่นั่งบนเที่ยวบินให้ได้ในสัดส่วน 20% ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับสิทธิ์น้ำหนักกระเป๋า น้ำและอาหารว่างและสามารถเลื่อนเที่ยวบินโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ส่วนที่นั่งอีก 80% จะยังคงเป็นตั๋วราคาโลว์คอสต์ตามเดิม รวมทั้งจะมีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่าน ร้านซีเอ็ด บุ๊ก ที่ บริษัทเครือซัมมิท กรุ๊ป ถือหุ้นอยู่กว่า 350 สาขาทั่วประเทศ โดยจะนำร่องสาขาในกทม. ก่อน

รวมทั้งเพิ่มบริการเสริมบนเที่ยวบินให้มากขึ้น เช่น ขายน้ำหนักกระเป๋า, ขายที่นั่ง, ของที่ระลึก, ขายประกันการเดินทาง และขายตั๋วพรีเมียม ซึ่งในส่วนนี้ปัจจุบันทำรายได้กว่า 1,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ 15% และมีแผนที่จะปรับแผนให้รายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 17% ในปี 2563 และ 20% ในปีต่อๆ ไป ซึ่งหากพิจารณารายได้เสริมที่โดยเฉลี่ยแต่ละสายการบินทำรายได้ในส่วนนี้จะพบว่า บางสายการบินสปิริท แอร์ สามารถทำรายได้ส่วนนี้พุ่งกว่า 40%

สำหรับแผนลดรายจ่ายนั้น จะเร่งลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง โดยล่าสุดได้มีการเปลี่ยนคู่สัญญาบริษัทซ่อม บำรุงรักษาเครื่องบิน จากเดิมต้องนำเครื่องนกแอร์ไปซ่อมที่ประเทศสิงคโปร์ ก็เปลี่ยนมาเป็น นกแอร์ลงทุนตั้งศูนย์ซ่อมเอง ซึ่งการลงทุนศูนย์ซ่อมเองจะทำให้นกแอร์ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงกว่า 10%

ส่วนความคืบหน้าในการจัดซื้อเครื่องบิน โบอิ้ง 737 MAX 8 จำนวน 6 ลำ ตามแผนก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้ได้เจรจากับโบอิ้งของเปลี่ยนแบบเป็น โบอิ้ง 737-800 แทน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารหลังจากเกิดข่าวความไม่ปลอดภัยของเครื่องบินรุ่นดังกล่าวโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน