สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วิเคราะห์ทิศทางอุตสาหกรรมไทยในปี’63 เบื้องต้น 15 อุตสาหกรรมหลัก ชี้อุตฯยานยนต์-อาหารไปต่อได้ แต่ อุตฯเหล็ก-เคมีภัณฑ์ทรุด

ส.อ.ท.มอนิเตอร์ 15 อุตสาหกรรม – นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ได้วิเคราะห์ทิศทางอุตสาหกรรมไทยในปี 2563 เบื้องต้น 15 อุตสาหกรรมหลัก จากนั้นจะทยอยจัดทำอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิก 45 กลุ่มที่เหลือให้ครบภายในเดือนม.ค. 2563 เพื่อประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมไทยปี 2563 โดยเบื้องต้นพบว่าใน 15 อุตสาหกรรมที่วิเคราะห์ มี 7 อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มฟื้นตัวปี 2563 ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากคาดหวังการท่องเที่ยวที่น่าจะเติบโตขึ้น มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้จากภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนกับภาครัฐ รวมถึงแนวโน้มค่าเงินบาท ทำให้เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วน ทาให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์น่าจะฟื้นตัวได้

2. อาหาร ประเมินว่าจะกลับมาขยายตัว 2% ในปีหน้าโดยเฉพาะกลุ่มผักผลไม้ที่เติบโตได้ดี 3. เฟอร์นิเจอร์ ที่คาดว่าจะเติบโตมากขึ้นหลังคำสั่งซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำนวนมาก 4. ปิโตรเคมี คาดว่าจะดีกว่าปีนี้เนื่องจากมีการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ 5. เครื่องสำอาง คาดจะยังเติบโตได้จากแนวโน้มที่ผู้บริโภคให้ความสาคัญกับการรักษาสุขภาพและความงาม 6. ปูนซีเมนต์ คาดจะเพิ่มขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนที่ขยายตัว 7. อัญมณีและเครื่องประดับ ที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัวทั้งสหรัฐและอินเดีย

สำหรับอุตสาหกรรมที่ประเมินว่าจะทรงตัวได้แก่ 1. ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม เนื่องจากยังเผชิญกับความไม่แน่นอนต่อเนื่อง จากปัจจัยเสี่ยงหลัก อย่างสงครามการค้าที่มีแนวโน้มจะคลี่คลายแต่ยังคงมีความไม่ชัดเจน 2. ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ มีความกังวลในประเด็นการเปลี่ยนแปลงการผลิตรถยนต์ของแต่ละค่ายรถยนต์ที่มีฐานผลิต ประกอบในประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 3. ผลิตภัณฑ์ยาง จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทที่อาจแข็งค่าต่อเนื่อง 4. ผลิตภัณฑ์พลาสติก ความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมัน 5. สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาท

ส่วนอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะชะลอตัวได้แก่ 1. เหล็ก เนื่องจากการถดถอยของการส่งออกของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ต้องใช้เหล็กอาทิยานยนต์ การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยมีการใช้กาลังการผลิตถดถอยลง 2. เคมีภัณฑ์ ที่ยังอาจต้องเชผิญกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และ 3. ผลิตภัณฑ์หนัง จากปัจจัยเสี่ยงการแข็งค่าเงินบาทและสงครามการค้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน