สงครามการค้า-ศก.โลก เขย่าดัชนีความเชื่อมั่นวูบ วอนรัฐรื้อระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง-เร่งออกมาตรการแก้ภัยแล้งด่วน ส.อ.ท.มองตลาดรถยนต์ไม่สดใส ตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี’63 ที่ 2 ล้านคัน

ความเชื่อมั่นอุตฯ วูบ – นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธ.ค. 2562 อยู่ที่ระดับ 91.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 92.3 เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากความกังวลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ปัญหาภัยแล้งที่มีความรุนแรงทำให้กระทบต่อผลผลิตและรายได้ของภาคเกษตร สะท้อนจากคำสั่งซื้อและยอดขายของสินค้าที่ลดลงทั้งจากสินค้าคงทนและไม่คงทน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่งออกก็ยังคงได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ตลอดจนความผันผวนของเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอีกเช่นกัน

สุพันธุ์ มงคลสุธี

“ผู้ประกอบการจากกลุ่มตัวอย่าง 1,207 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศพบว่า 70.1% ยังคงกังวลปัญหาสภาวะเศรษฐกิจโลก อีก 61.2% กังวลอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัญในมุมมองผู้ส่งออก และ 43.2% กังวลการเมืองภายในประเทศ“

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 100.1 ลดลงจากระดับ 101.3 เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน รวมทั้งการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งและความตึงเครียดในตะวันออกกลางก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการและการส่งสินค้าไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งผู้ประกอบการต้องวางแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ให้ปรับปรุงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และขอให้ภาครัฐหามาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเร่งด่วน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ปี 2563 ส.อ.ท. ประมาณการยอดผลิตรถยนต์รวม 2,000,000 คัน น้อยกว่าปี 2562 จำนวน 13,710 คัน ที่ผลิตได้ 2,013,710 คัน ลดลง 0.68% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน ลดลง 37,164 คัน คิดเป็น 3.58% จากที่ผลิตได้ 1,037,164 คัน

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

เนื่องจากยังกังวลเรื่องสงครามการค้าที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะยุติ ค่าเงินบาทแข็ง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศในบางภูมิภาค ขณะที่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,000,000 คัน เพิ่มขึ้น 23,454 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% จากที่ผลิตได้ 976,546 คัน เพราะการผลิตรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ของหลายบริษัท

“สาเหตุที่สมาชิกกลุ่มรถยนต์ของส.อ.ท. ไม่ตั้งเป้าการผลิตสูงมากนัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ เพราะอาจขยายไปยังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และห่วงเรื่องค่าเงินบาท ที่อาจส่งผลต่อการผลิตรถยนต์ในไทยและส่งออกไปขายต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องปัญหาภัยแล้งอาจกระทบต่อเกษตรกร และปัญหาการเมืองในประเทศไทย”

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศปี 2562 อยู่ที่ 1,007,552 คัน ลดลง 3.3% จากปี 2561 เนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ ประกอบกับเป็นช่วงเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งอีโคคาร์หลายบริษัทและเปลี่ยนรุ่นรถกระบะในบางบริษัท แต่ยอดขายทั้งปียังสูงกว่าเป้าหมาย 7,552 คันที่ตั้งไว้ 1,000,000 คัน เนื่องจากมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา 37,489 คัน และส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปปี 2562 ทั้งปีอยู่ที่ 1,054,103 คัน ลดลง 7.59% จากปี 2561 แต่มากกว่าเป้าหมาย 54,103 คัน ที่ตั้งไว้ 1,000,000 คัน คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 545,967.56 ล้านบาท ลดลง 8.21%

นายสุพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อยู่ระหว่างหารือแนวทางการสนับสนุนโครงการการปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ รองรับการใช้น้ำมันดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ เพื่อให้รถยนต์มีการปล่อยมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.6 ไมครอน (PM 2.5) ลดลง

อาทิ การสนับสนุนตรวจสอบเช็กสภาพรถยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง/น้ำมันหล่อลื่นฟรี การเปลี่ยนอะไหล่ในราคาถูกเป็นพิเศษ การสนับสนุนค่าแรงให้มีความชัดเจนเร็วๆ นี้ อีกทั้งจะขอความร่วมมือไปยังสมาชิกในการดูแลความสะอาดและควบคุมกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงงานที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น ดูแลตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ และเลือกใช้เชื้อเพลิงสะอาด รวมถึงตรวจสอบวิเคราะห์แหล่งกำเนิดฝุ่น เพื่อเพิ่มมาตรการในการตรวจติดตามและป้องกันอย่างใกล้ชิด ป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษของทางภาคอุตสาหกรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน