โรงแรมกังวลแล้งรุนแรงเล็งขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวงดซักผ้า – ส่วนปี’63 ห้องพักลดราคาแข่ง – แอตต้าประเมินปีนี้ต่างชาติเที่ยวไทย 41-42 ล้านคน ลุ้นเงินบาทไม่หลุด 30 บาทต่อดอลลาร์พอไหว

โรงแรมเล็งของดซักผ้า – นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยในงานการประชุมร่วมระหว่างแอตต้า และสมาคมโรงแรมไทย หรือทีเอชเอ ว่า สถานการณ์การตลาดและแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยในปี 2563 ยังมีปัจจัยเสี่ยงให้ต้องติดตามอีกหลายเรื่อง ทั้งค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ถ้าปีนี้อยู่ที่ 30-31 บาทต่อดอลลาร์ก็พอใจแล้ว ถ้า 32 บาทต่อดอลลาร์จะขอบคุณ แต่ถ้า 28-29 บาทต่อดอลลาร์ก็ตัวใครตัวมัน เพราะในปี 2562 เงินบาทแข็งค่าคนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่เหลือกำไร ส่งผลให้รัฐบาลก็เก็บภาษีไม่ได้ไปด้วย

อีกทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรงของธรกิจการท่องเที่ยว ในปี 2563 นี้ คงไม่ต้องหวังว่าไทยจะมีตัวเลขจำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวไทยเติบโตเป็นหลัก 10% เหมือนกับหลายๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งปีนี้ แอตต้า ประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางมาเที่ยวไทยประมาณ 41-42 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 3-5% จากปีก่อน คิดเป็นจำนวนเพิ่มขึ้น 1-2 ล้านคนก็พอใจมากแล้ว

“ในปีนี้ภาคเอกชนยังเชื่อมั่นว่า การท่องเที่ยวยังเติบโต แต่จะไม่แรงเหมือนหลายปีก่อนหน้า เห็นได้จากปีก่อนมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทย 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.89% เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 11 ล้านคน ดังนั้นในปี 2563 ก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 11.5 ล้านคน โดยแอตต้ามองว่า โอกาสที่คนจะเดินทางก็ยังมีตลาดใหม่ๆ อีกหลายแห่งที่ต้องเข้าไปทำ เช่น กลุ่มชนชั้นกลางของจีนกว่า 400 ล้านคน คนกลุ่มนี้เคยมาไทยแค่ 100 ล้านคน ยังเหลือตลาดอีก 200-300 ล้านคน ที่หาช่องทางไปดึงมาเที่ยวได้ รวมไปถึงอินเดียที่เป็นตลาดที่กำลังเติบโต”

นายวิชิต กล่าวว่า ในปีนี้ภาคเอกชนก็หวังว่ารัฐบาลจะมีแนวทางออกมากระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีน หากรัฐบาลรีบพิจารณาประกาศขยายระยะเวลาของมาตรการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าออนอาร์ไรวัล หรือค่าวีซ่าหน้านด่านตรวจคนเข้าเมือง ออกไปจากที่สิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือนเม.ย.นี้ ก็น่าจะดีทีเดียว เพื่อวางแผนจัดขายแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าได้

ส่วนปัญหาในระยะสั้น เช่น กรณีของการระบาดของไวรัสโคโรนา ในเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีน ก็ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด แต่ในเบื้องต้นมั่นใจว่ารัฐบาลจีนน่าจะควบคุมสานการณ์ได้อยู่ โดยล่าสุดทางการจีนประกาศห้ามคนเมืองนี้เดินทางข้ามมณฑลและห้ามออกนอกประเทศเพื่อป้องกันการระบาดไว้ก่อน และไม่น่าส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวมากนัก โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่นที่เดินทางมาไทยคิดเป็นเพียง 1% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดเท่านั้น

น.ส.ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สถานการณ์การเข้าพักของนักท่องเที่ยวในปี 2563 น่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยทีเอชเอ คาดอัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 80% เหมือนกับปี 2561 โดยสถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วงเดือนม.ค. 2563 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงทำให้มีการเข้าพักเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยบวกที่ยังมีคือปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงอีหร่านและสหรัฐ ไม่รุนแรง เศษฐกิจจีนน่าจะโตประมาณ 5-8%

“การแข่งขันที่รุนแรง โดยการเพิ่มขึ้นของห้องพักใน 1-2 ปีข้างหน้า ประมาณ 50,000 ห้องส่งผลให้ขณะนี้ผู้ประกอบการใช้กลยุทธ์ด้านราคาลดลงประมาณ 10% เพื่อดึงดูดลูกค้าให้อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น 80% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด และเพิ่มประมาณ 6% จากปี 2562 ที่มีจำนวนห้องพักเฉลี่ย 75%”

น.ส.ศุภวรรณ กล่าวว่า ส่วนสิ่งที่ผู้ประกอบการฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่อาจส่งผลในระยะยาวต่อผู้ประกอบการ และกังวลจะกระทบกับยอดนักท่องเที่ยวหากรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนและไม่สามารถขจัดปัญหาในเรื่องนี้ได้ในระยะยาว และอีกความกังวล คือเรื่องของภัยแล้งที่โรงแรมอาจจำเป็นต้องขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพัก ให้ซักผ้าน้อยลง ปกติซักทุกวัน หากพัก 2-3 วันงดซักผ้า จะได้ช่วยกันประหยัดน้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน