ไทยแลนด์ซูเปอร์ ไดนามิคฯ

‘โปรไฟไหม้’ดึงญี่ปุ่นเที่ยวไทย

ไทยแลนด์ซูเปอร์ ไดนามิคฯ – เดินหน้ากระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยกันเต็มที่ หลังตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องเงินบาทแข็งค่าที่สุดในภูมิภาค เศรษฐกิจโลก

และสาหัสที่สุดไม่พ้น ‘ไวรัสโคโรนา’ มาเขย่าขวัญคนทั้งโลก

ทำให้ท่องเที่ยวไทยที่ตลาดใหญ่คือนักท่องเที่ยวชาวจีนหดหายไปจำนวนมาก เนื่องจากผู้บริหารของจีนมีคำสั่งห้ามคนในประเทศออกไปที่อื่น เพราะหวั่นยิ่งแพร่กระจาย เชื้อไวรัส

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องปรับเป้าหมายลงตั้งแต่เดือนแรกของปี พร้อมกับให้ ผอ.ท่องเที่ยวฯ ทั่วโลก โหมประชาสัมพันธ์ ดึงนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ มาไทยกันสุดฤทธิ์

ล่าสุด นายเสกสรร ศรีไพรพรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานโตเกียว ททท. เตรียมออกมาตรการกระตุ้นการเดินทางระยะสั้นผ่านโครงการ ‘ไทยแลนด์ซูเปอร์ ไดนามิค แพ็กเกจ’ (โปรไฟไหม้) เพื่อดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้เดินทางเข้าไปเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

แพ็กเกจโปรไฟไหม้จะประกอบด้วย ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักในประเทศไทยราคาพิเศษ ทดแทนตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้กำลังรอความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะเห็นชอบ ออกมาตรการกระตุ้นการเดินทางระยะสั้นผ่านโปรไฟไหม้นี้หรือไม่ สำนักงานหารือกับบริษัททัวร์ของญี่ปุ่นรายใหญ่หลายราย ที่มีความพร้อมร่วมขายโปรไฟไหม้กับททท.

ส่วนบริษัททัวร์ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีตั๋วเครื่องบินอยู่ในมืออยู่แล้ว และสามารถบริหารจัดการราคาได้ บางส่วนจะจัดทำเป็นโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษกว่าปกติ ทั้งเที่ยวบินตรงจากญี่ปุ่นมาไทย หรือเที่ยวบินเชื่อมต่อที่มีประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง เช่น ซัปโปโร-อินชอน-เชียงใหม่ หรือภูเก็ต ของสายการบินต่างๆ

พร้อมกันนี้ททท.ต้องประสานหน่วยงานต่างๆ จัดทำโปรโมชั่นเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ รวมกับที่พักราคาถูกอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการเดินทาง

การจัดทำโครงการทั้งหมดนี้จะมีการเสนอของบกลาง ปี 2562 จากรัฐบาลประมาณ 8.5 ล้านบาท มาดำเนินการ คาดว่าหากทำสำเร็จจะดึงนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นให้เดินทางมาได้อย่างน้อย 5 หมื่นคน

“หวังว่าโปรไฟไหม้จะเริ่มออกมาได้ในเดือนมี.ค. ทำเป็น โปรโมชั่นผ่านออนไลน์ จากนั้นในเดือนเม.ย.-มิ.ย. จะเริ่มขายช่วงแรกก่อน เว้นช่วงโอลิมปิก และจะขายอีกช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. ราคาที่ขายน่าจะต่ำกว่าราคาปกติประมาณ 80% โดยแนวทางการส่งเสริมนี้จะเป็นการกระตุ้นยอดนักเดินทางกลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเอง ให้มาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ส่วนกรุ๊ปทัวร์ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป”

นายเสกสรรกล่าวว่า แม้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะไม่ใช่ตลาดใหญ่มากนัก แต่เป็นตลาดสำคัญที่เติบโตสูงและมีกำลังซื้อ ปี 2562 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทย 1.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 9% และในปี2563 คาดว่าน่าจะแตะ 2 ล้านคน โดยในจำนวนนี้จะเป็น กลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเอง 80%

ปัจจุบันยังมีตลาดใหม่ๆ ให้เจาะมากขึ้น ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มนักเรียน และนักท่องเที่ยวบางเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังไม่เคยเดินทางออกไปต่างประเทศ

ตอนนี้จำเป็นต้องใช้โอกาสที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์และช่วยธุรกิจสายการบินมีรายได้อย่างสมดุล

ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในช่วงที่การท่องเที่ยวไทยระส่ำระสายเหลือเกิน