พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคระรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างจ่ายของส่วนราชการ ทั้งค่าน้ำประปา ไฟฟ้า และค่าโทรศัพท์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทุกส่วนราชการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ติดหนี้อยู่จะต้องเร่งจ่ายหนี้ทั้ง 2 ส่วน คือ หนี้ที่ค้างอยู่ก่อนปีงบประมาณ 2560 และหนี้ที่ก่อขึ้นใหม่ในปีงบประมาณ 2560 ขอให้จ่ายให้หมดโดยเร็ว และกำชับว่าต่อไปนี้ทุกส่วนราชการต้องไม่มีหนี้ค้างจ่ายอีกต่อไป

ทั้งนี้ ในปัจจุบันทุกส่วนราชการได้ติดหนี้ค่าสาธารณูปโภคของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง รวมเป็นเงินกว่า 4,096 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ค้างตั้งแต่ก่อนปีงบประมาณ 2560 รวมประมาณ 595 ล้านบาท และหนี้ในปีงบประมาณ 2560 รวมประมาณ 3,501 ล้านบาทโดยแบ่งเป็น หนี้ที่ส่วนราชการติดกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) รวม 1,250 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง รวม 410 ล้านบาท การประปานครหลวง รวม 52 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวม 2,229 ล้านบาท และการประปาส่วนภูมิภาค รวม 154 ล้านบาท

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาที่ครม.เห็นชอบในครั้งนี้ แยกออกเป็น กรณีของหนี้ที่ค้างจ่ายก่อนปีงบประมาณ 2560 ขอให้ทุกส่วนราชการปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบปี 2560 มาจ่ายหนี้ หรือให้นำเงินนอกงบประมาณ เช่น เงินรายได้หรือเงินที่ได้รับไว้เพื่อเป็นสวัสดิการ มาจ่ายหนี้ไม่ต่ำกว่า 25% ของค่าสาธารณูปโภคในปีนั้น ให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ส่วนกรณีของหนี้ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปีงบ 2560 เป็นต้นไป ก็ให้จ่ายให้เสร็จในปีงบประมาณนั้นๆ อย่างเคร่งครัด โดยให้นำงบประมาณที่ได้รับเป็นค่าสาธารณูปโภคไปจ่ายทั้งหมด ไม่ให้ไปใช้จ่ายเพื่อการอื่น หรือถ้าหากงบที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายมีไม่พอ แต่มีงบเหลือจ่ายหรือมีงบส่วนใดที่พอเจียดไปจ่ายได้ก็ขอให้เปลี่ยนแปลงไปจ่ายค่าสาธารณูปโภคก่อนเป็นอันดับแรก

อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ส่วนราชการสามารถกันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้นไว้เบิกเหลือมปี เพื่อนำไปจ่ายหนี้ได้อีก 3 เดือนหลังจากสิ้นปีงบประมาณ และต้องจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับให้นำเงินนอกงบประมาณมาจ่ายหนี้ไม่ต่ำกว่า 25% ของค่าสาธารณูปโภคในปีนั้นได้ด้วย

ขณะเดียวกันเพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้สาธารณูปโภคอย่างประหยัด และเหมาะสมกับความเป็นจริง ควรต้องกำหนดมาตรการออกมาควบคุม เช่น การตั้งงบประมาณค่าสาธารณูปโภค ทั้งส่วนราชการต้องร่วมกับรัฐวิสาหกิจผู้ขายบริการต้องจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละปีให้เหมาะสม และจัดทำแผนการใช้ให้สอดคล้องกับวงเงินงบประมาณ มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามและรายงานสถานการณ์การใช้สาธารณูปโภคในหน่วยงาน และให้แยกแยกมิเตอร์หรือเครื่องวัดว่ามีของส่วนราชการ หรือเป็นของที่พักอาศัย สโมสร ร้านค้าสวัสดิการ อาคารสวัสดิการให้ชัดเจน มีการตรวจสอบการจ่ายเงินอย่างถูกต้อง ก่อนรายงานรับมนตรีเจ้าสังกัดรับทราบทุกไตรมาสด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน