นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการประมูลพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ขนาดที่ดิน 32 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ว่า คาดว่าในเดือนก.ค. รฟท. จะเดินหน้าจัดประชุมทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Market Sounding) รอบใหม่ หลังจากเปิดไปก่อนหน้านี้แต่ไม่มีผู้สนใจยื่นซองประมูล ซึ่งตามกฎหมายต้องจัดมาร์เก็ตซาวดิ้งให้ครบ 3 ครั้ง หากไม่มีเอกชนแสดงประมูล จึงจะยกเลิกการประมูล และทบทวนรูปแบบเปิดประมูลใหม่
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ตั้งคณะทำงานศึกษากำหนดยุทธศาสตร์การบริหารพื้นที่ และติดตามกำกับนโยบายการจัดการรายได้จากทรัพย์สินประเภท สังหาริมทรัพย์-อสังหาริมทรัพย์ ของ รฟท. โดยมีนายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบการจัดสรร การใช้ทรัพย์สินของ รฟท. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งเป้าหารายได้เพิ่มจากการบริหารทรัพย์สินอีกละ 10% เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดทำสัญญาเช่าที่ดินเกิดประโยชน์แต่ยังไม่มากพอ เช่น ราคาประเมินที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นต้น
สำหรับรายได้จากการบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ปัจจุบันรายได้เฉลี่ย 2,858 ล้านบาท/ปี มีสัญญาเช่ากับเอกชนกว่า 33.2 ไร่ แบ่งเป็นสัญญาเช่าอาคาร 3,106 สัญญา และสัญญาเช่าที่ดิน 2,935 สัญญา ทั้งนี้ ที่ดินของ รฟท. ซึ่งอยู่ในสัญญาระหว่างเอกชน ใกล้จะหมดอายุสัญญา คือที่ดินย่านรัชดาภิเษกกว่า 100 แปลง หรือ 100 กว่าสัญญา ตั้งแต่แยกห้างสรรพสินค้าโรบินสันเก่า ไปตลอดแนวถนนจนถึงสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ และจุดตัดถนนวิภาวดีรังสิต จะทยอยครบกำหนดปี 2565-2566 รฟท. จะมีการประเมินค่าเช่าใหม่ก่อนต่อสัญญาเช่า เนื่องจากสัญญาเช่าเดิมทำไว้เมื่อ 20-30 ปีและมีรายได้เฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท หรือมีอีกแนวทางคือการเปิดประมูลใหม่เพื่อจัดหาเอกชนร่วมทุน (พีพีพี)
