นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ต้อนรับคณะทำงานจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ซีเอ็นทีเอ) เข้าหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือการท่องเที่ยวไทย-จีน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเวียดนาม ในวาระที่ปี 2560 ได้รับการประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว “จีน-อาเซียน”
ทั้งนี้ ซีเอ็นทีเอ นำตัวแทนด้านการท่องเที่ยวระดับสูงจาก 3 มณฑล ได้แก่ ซานซี, ชิงไห่ และเขตปกครองตนเองทิเบต เดินทางมาแนะนำสินค้าด้านท่องเที่ยวต่อไทยและอาเซียน เนื่องจากต้องการให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปในจีนมากขึ้น เนื่องจากเมืองทั้งหมดเป็นเมืองใหญ่ลำดับ 2 หรือ 3 ซึ่งอาจจะยังไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยมากนักเมื่อเทียบกับปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ โดยรูปแบบจะคล้ายกับไทย ที่ต้องการกระจายเศรษฐกิจท่องเที่ยว ผ่านการโปรโมตเมืองรองมากขึ้น
นอกจากนั้น ตัวแทนจากมณฑลต่างๆ ระบุว่า ปัจจัยด้านสายการบินเชื่อมต่อก็มีพร้อมอยู่แล้ว แต่ลูกค้าหลักเกือบทั้งหมดจะเป็นตลาดจีนเดินทางมาไทยเท่านั้น ไม่เกิดความสมดุลของนักท่องเที่ยว ดังนั้น หากสามารถส่งเสริมให้คนไทยเดินทางเพิ่มขึ้น การเดินทางทั้งขาเข้า-ขาออก จะขยายตัวอย่างสมดุล เป็นโอกาสให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินและที่นั่งเพิ่มขึ้น และไทยจะมีโอกาสรับตลาดจีนเพิ่มขึ้นด้วยในอนาคต
ในปี 2559 อาเซียนต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนรวมกว่า 20 ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวอาเซียนไปเยือนจีนมี 10 ล้านคน ดังนั้น จึงถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญระหว่างกัน โดยหลังจากที่ได้แจ้งซีเอ็นทีเอว่า ปี 2561 ไทยเตรียมประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ทางการจีนระบุว่ายินดีให้ความสนับสนุน แต่ขอให้ไทยเข้มงวดเรื่องการดูแลความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวให้ดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปจีนยังมีจำนวนน้อย จัดอยู่ใน 20 อันดับแรก ต่างจากตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เข้าไปจำนวนมาก ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา จีนจึงวางกลยุทธ์เชิงรุกด้วยการมาเปิดสำนักงานการท่องเที่ยวจีนประจำกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานท่องเที่ยวต่างประเทศแห่งที่ 22 โดยหวังว่าจะเชื่อมโยงไทยในฐานะเป็นจุดหมายสำคัญในเส้นทางวันเบลท์ วันโร้ด ที่จีนกำลังส่งเสริมการลงทุนในขณะนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน ตัวแทนจากหน่วยงานด้านท่องเที่ยวของไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน แสดงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับจีน เข้าร่วมงาน “ไชน่า บียอนด์ ยัวร์ อิมแมจิเนชั่น” เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากปี 2559 พบว่าทั้งสองประเทศมีการเดินทางแลกเปลี่ยนรวมกว่า 9.6 ล้านคน
