นายสมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มรวมของประเทศไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 ติดลบ 7% โดยเครื่องดื่มทุกประเภทติดลบทั้งหมดไม่มีตัวไหนเติบโต ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มเริ่มได้รับผลกระทบ และต่อเนื่องมาถึงในไตรมาส 2 ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ เนื่องจากช่องทางการจำหน่ายปิดให้บริการ โดยเฉพาะในช่องทางร้านอาหาร ฟาสต์ฟู้ด ไม่สามารถนั่งทานในร้านได้ รวมถึงการปิดให้บริการผับ บาร์ ซึ่งทั้งหมดมีสัดส่วนยอดขาย 18-20% และมีผลให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตนอกบ้านน้อยลงด้วย ทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มติดลบ

ขณะที่แนวโน้มตลาดครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีขึ้นหลังมีการคลายล็อกดาวน์ แต่เชื่อว่าอาจไม่เร็ว เนื่องจากสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 22% ของจีดีพีประเทศไทย ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ อีกทั้งยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าไวรัสโควิด-19 จะกลับมาระบาดระลอก 2 หรือไม่ ทำให้ประเมินภาพรวมตลาดเครื่องดื่มปีนี้ทั้งปีได้ยาก แต่เชื่อว่ายังคงติดลบแน่นอน จากปี 2562 ที่มีมูลค่าประมาณ 155,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 9% โดยกลุ่มน้ำอัดลมมีสัดส่วนมากที่สุดหรือประมาณ 35% และเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยที่สุดในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา หรือติดลบ 2.5%

อย่างไรก็ดี ในส่วนของเครื่องดื่มมิรินด้า เนื่องจากล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจปรับแผนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ให้สอดคล้องกับทิศทางของโกลบอล ที่ต้องการปรับภาพลักษณ์ของมิรินด้าให้ตรงใจผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Z มากยิ่งขึ้น พร้อมหันมาให้ความสำคัญในการทำการตลาดผ่านรสชาติหลัก ได้แก่ มิรินด้ากลิ่นส้ม มิรินด้ากลิ่นสตรอเบอร์รี่ และล่าสุดมิรินด้ากลิ่นกรีนครีม ที่ออกจำหน่ายในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ยอดขายของมิรินด้าในไตรมาสแรกเติบโตกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเชื่อมั่นว่าทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 18-20% และวางเป้าหมายจะขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 2 จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 3 ในตลาดน้ำอัดลมสี

โดยแผนการตลาดครึ่งปีหลังแคมเปญการตลาดจะมุ่งเน้นแนวความคิด “Mirinda Mix Up Your World มิรินด้าสนุกทุกสี ซ่าไม่มีซ้ำ” ที่เจาะลึกถึงไลฟ์สไตล์และความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ภายใต้งบการตลาดรวม 200 ล้านบาท โดย 60% จะมุ่งใช้ลงทุนในแพลตฟอร์มดิจิตอลเป็นหลัก ซึ่งสูงกว่าปีก่อนเท่าตัว เพื่อให้เข้าถึงกลุ่ม Gen Z และกระตุ้นให้หันมาลองเครื่องดื่มมิรินด้า เช่นล่าสุดจับมือพันธมิตร อาทิ TIK TOK ในการสร้างสรรค์ความสนุกผ่านฟีเจอร์ใหม่ การใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ได้ทีมครีเอทีฟของ TIK TOK มาทำงานร่วมกัน พร้อมกับได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด มิรินด้า กลิ่นมิกซ์เบอร์รี่และแตงโม เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ผสาน 2 กลิ่นผลไม้ในขวดเดียว มีให้เลือก 2 ขนาด คือ แบบขวด PET ขนาด 345 มิลลิลิตร และ 440 มิลลิลิตร วางจำหน่ายแล้วในร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน