นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า โครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกรเพื่อรองรับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้ 45 ล้านบาท อุดหนุนค่าขนส่ง ค่าบริหารจัดการ และซื้อตะกร้าขนผลไม้ให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อเร่งระบายผลผลิตไปทั่วประเทศ เน้น “มังคุด-ลำไย” ซึ่งหลังจากที่เครือข่ายสหกรณ์ทุกจังหวัดได้ร่วมกันกระจายผลไม้ของภาคตะวันออกไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังดำเนินการต่อเนื่อง ช่วยกันกระจายลำไยจากสหกรณ์ในภาคเหนือไปสู่ผู้บริโภคปลายทาง ทั้งในพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง คาดว่าลำไยจะออกมากในเดือนส.ค.นี้

ซึ่งการกระจายลำไยของเครือข่ายสหกรณ์ ถือว่าทำได้ดี มีเสียงชื่นชมจากผู้บริโภคว่าลำไยของสหกรณ์ในจังหวัดทางภาคเหนือมีคุณภาพ รสชาติหวานกรอบ เนื่องจากหลายสหกรณ์เน้นให้สมาชิกผลิตตามมาตรฐาน GAP และไม่เน่าเสียระหว่างการขนส่งสู่ตลาดปลายทาง ทำให้สหกรณ์สามารถระบายผลผลิตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งกรมฯ จะใช้โมเดลการบริหารจัดการลำไยมาวางระบบกระจายมังคุดในภาคใต้ต่อทันที

“โครงการนี้ที่ได้ผลดีเพราะมาจากความร่วมมือของสหกรณ์ต้นทางที่เป็นผู้ผลิตกับสหกรณ์ปลายทางที่เป็นผู้บริโภค เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ดังนั้น อยากเห็นภาพความเอื้อเฟื้อกัน ช่วยกันซื้อขายหรือการแลกเปลี่ยนสินค้ากันในเครือข่ายสหกรณ์แบบนี้ต่อไป เพราะจะเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถมาช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำได้ ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนจากนี้จะเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ทางใต้ อยากขอความร่วมมือจากเครือข่ายสหกรณ์ในภาคอื่นๆ ช่วยกันวางแผนหาออร์เดอร์รอไว้ เมื่อผลไม้ทางใต้ออกมาก็จัดส่งได้ทันที จะช่วยให้ระบายผลผลิตได้ทันเวลา ไม่เกิดการกระจุกตัว สิ่งสำคัญคือเรื่องคุณภาพ ที่ต้องเน้นสมาชิกสหกรณ์ผลิตผลไม้ให้ได้มาตรฐาน ตรงกับที่ผู้บริโภคต้องการ จะทำให้ตลาดผลไม้ของสหกรณ์สามารถเดินต่อไปได้”นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับผลการรวบรวมผลไม้ของสหกรณ์ทั้งระบบ ซึ่งมีทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลจนถึงขณะนี้ มีปริมาณรวมกว่า 10,261.972 ตัน มูลค่ากว่า 341.956 ล้านบาท ส่วนการกระจายลำไยผ่านเครือข่ายสหกรณ์ในช่วงเดือนพ.ค.ถึงสิ้นก.ค. 2563 ที่ผ่านมา สามารถกระจายลำไยได้แล้ว 1,312 ตัน หรือ 41% จากแผนที่ตั้งไว้ตามโครงการ จำนวน 3,200 ตัน เป็นลำไยจากสหกรณ์ในภาคเหนือ ซึ่งในปีนี้ สหกรณ์จะเน้นทำตลาดผลไม้ในประเทศ โดยกระจายผ่านเครือข่ายสหกรณ์นอกพื้นที่ 18 จังหวัด และส่วนหนึ่งส่งให้กับห้างโมเดิร์นเทรด รวมถึงขายผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีบริษัทเอกชนสั่งซื้อลำไยผลสดจากสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จ.ลำพูน ทยอยส่งออกผ่านทางด่านชายแดนไทยเพื่อไปยังประเทศจีนแล้ว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนก.ค. ที่ผ่านมา จำนวน 11 ตู้คอนเทรนเนอร์ ปริมาณรวม 275 ตัน และยังมีออร์เดอร์สั่งซื้อต่อเนื่องจนกว่าผลผลิตลำไยจะหมด คาดว่าทางสหกรณ์จะสามารถรวบรวมผลผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีนได้จนถึงสิ้นเดือนส.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน