นายจรินทร สุทธนารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างอบรมความรู้แก่เกษตรกรที่ปลูกข้าว, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, ยางพาราและอื่นๆ เกี่ยวกับการชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตร เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าโกงตราชั่ง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าพ่อค้าหลายรายมีกลยุทธ์การโกงน้ำหนักสินค้าเกษตรในรูปแบบต่างๆ จนเกษตรกรตามไม่ทันและต้องเสียรายได้จำนวนมหาศาล เช่น บางรายถูกโกงน้ำหนักข้าวครั้งละ 200-500 กก. ส่วนใหญ่พ่อค้าดัดแปลงแก้ไขเพิ่มวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องชั่งแล้วใช้รีโมตควบคุมน้ำหนักสินค้าให้น้อยลง เป็นต้น

ขณะเดียวกันกรม ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจเครื่องชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตรของบรรดาพ่อค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ช่วยเข้ามาดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด หลังจากที่ผ่านมาพบว่าพ่อค้ารายใหญ่บางรายเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น จึงจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าช่วย และสามารถดำเนินการได้หลายกรณีแล้ว

“การให้ความรู้ก็จะให้ทราบเกี่ยวกับเครื่องชั่งน้ำหนักรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องชั่งที่ใช้รีโมตเป็นตัวควบคุมว่าเครื่องมีความผิดปกติหรือไม่ รวมถึงการรู้จักวิธีประเมินน้ำหนักสินค้าของเกษตรกรด้วย อย่างไรก็ตาม หากพบว่าน้ำหนักสินค้ามีปัญหาหรือได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้มากๆ ก็สามารถร้องเรียนมายังกรมได้ เพราะกรมจะมีผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องชั่งที่ใช้รีโมตควบคุมน้ำหนัก”

สำหรับสินค้าที่น่าเป็นห่วงมากสุดคือ ข้าวที่พบว่าชาวนาจำนวนมากจะให้รถเก็บเกี่ยวไปขายกับพ่อค้าแล้วนำใบเสร็จมาให้ แต่บางกรณีพ่อค้าจะใช้วิธีให้เงินพิเศษแก่รถที่นำข้าวมาขาย (ค่าน้ำชา) เพื่อแรงจูงใจ จากนั้นก็จะใช้วิธีโกงน้ำหนักเพราะเกษตรกร หรือคนที่รับฝากขายไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องชั่งมากนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ลงนามคำสั่งในประกาศเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด เพื่อให้ผู้ประกอบการ เช่น โรงสี ผู้ส่งออก ท่าข้าว โกดัง ที่มีเครื่องชั่งรถยนต์สำหรับซื้อขายสินค้าเกษตรกรหลัก เช่น ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด โดยในประกาศดังกล่าวระบุว่าผู้ประกอบการต้องเก็บสถิติการชั่งไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ปี เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในกรณีที่เจ้าหน้าที่ลงตรวจพื้นที่ตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาเมื่อผู้ประกอบการทราบข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจก็จะลบข้อมูลที่เคยชั่งไว้ออกทั้งหมด เป็นการทำลายหลักฐานไม่ให้จับได้ว่ามีการโกงน้ำหนักในการซื้อขายสินค้าเกษตรมาก่อนทำให้ไม่สามารถเอาผิดได้

นอกจากนี้ หากพบว่ามีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในราคาต่ำกว่าราคาแสดงไว้ จะถูกดำเนินการจับกุม ที่ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 41 พ.ศ. 2560 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากใช้เครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้นที่ขาดการรับรองความถูกต้อง และไม่ใช้เครื่องวัดความชื้น สิ่งเจือปนในการรับซื้อ ก็จะดำเนินการตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ตามมาตรา 70 เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 50,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน