ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงครั้งแรกรอบ 5 เดือน – หอการค้าไทยคาดจีดีพีปีนี้ติดลบ 7-9%

ความเชื่อมั่นผู้บริโภควูบ – นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการในเดือนนี้ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 50.2 จากเดือนก่อนหน้า ที่ระดับ 51.0 ซึ่งยังคงต่ำกว่าระดับ 100 สะท้อนว่าประชาชนกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งกระทบในเชิงลบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ การท่องเที่ยว การส่งออก และการจ้างงาน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกลง มีสาเหตุหลักมาจากการลาออกของรมว.คลัง ส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นทั้งในตลาดทุนและภาคธุรกิจ ที่จะกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยังมีเหตุการณ์การชุมนุม ที่สะท้อนจากดัชนีความคิดเห็นทางเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในเดือนก.ย. มีการปรับตัวลดลงอีกครั้งอยู่ที่ระดับ 29.2 หลังจากปรับตัวดีขึ้นในรอบ 18 เดือนในเดือนที่แล้ว อยู่ในระดับ 32.5

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนต.ค. ยังต้องติดตามการขับเคลื่อนนโยบายจากรมว.คลังคนใหม่ และเหตุการณ์ชุมนุมที่ยังมีต่อเนื่อง รวมทั้งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ทั้งคนไทยเที่ยวไทย และเปิดรับชาวต่างชาติภายใต้เงื่อนไข เพราะต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เริ่มแบกรับสถานการณ์ไม่ไหว ที่อาจจะมีการปลดคนงาน หรือจ้างงานน้อยลง ทำให้ขาดรายได้ เกิดการกู้หนี้ยืมสิน และจากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่ติดลบ จะมีผลให้หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งในไตรมาสที่ 4 ถือเป็นช่วงสำคัญที่จะมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะมีเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการอุดหนุนทั้งหมดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน รวมกว่า 1 แสน 1 หมื่นล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ติดลบน้อยลง จากติดลบ 6-7% เหลือเพียงติดลบ 4-5%

โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังคงประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จะติดลบ 7% ถึงลบ 9% ส่วนในปีหน้า คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีแรก และทั้งปีภาพรวมจะขยายตัวได้ 3-4%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน