หอการค้าชี้‘คนละครึ่ง’ดันดัชนีเชื่อมั่นเดือนพย. จับสถานการณ์ทางการเมือง-โควิด-19 ระบาดบั่นทอนเศรษฐกิจ

‘คนละครึ่ง’ดันความเชื่อมั่น – นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ย. 2563 ว่า ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และปรับตัวอยู่ในระดับที่สูงสุดในรอบ 9 เดือน แตะระดับ 52.4

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มที่ปรับฟื้นตัวดีขึ้น ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเกิดการหมุนเวียนโดยเฉพาะข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และปศุสัตว์ ส่งผลให้กำลังซื้อในหลายจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการดำเนินนโยบายของภาครัฐในโครงการคนละครึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน

แม้ว่าผู้บริโภคจะมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองไทยหลังจากมีการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้งในเดือนต.ค. จนทำให้ดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองปรับตัวต่ำสุดในรอบ 171 เดือนหรือ 14 ปี 3 เดือน และผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและการว่างงานในอนาคตที่เกิดจากผลกระทบเชิงลบจากโควิด-19

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 45.6 โอกาสในการทางานทำอยู่ที่ระดับ 50.0 และรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 61.6 ซึ่งเป็นดัชนีที่ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ ถึงแม้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ ศูนย์ฯ คาดว่าผู้บริโภคยังคงชะลอการใช้จ่ายอย่างมากไปอย่างน้อยจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 ของโลกจะคลายตัวลง ซึ่งต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 4 ว่าสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้มากน้อยเพียงใด และสถานการณ์ทางการเมืองของไทยจะดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร ซึ่งปัจจัยทั้งสองจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตเป็นอย่างมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน