ทอท.ลุยประมูลสร้างดอนเมืองเฟส 3 มิ.ย.ปีหน้า วงเงินลงทุน 3.2 หมื่นล้านบาท คาดอีไอเอใหม่ผ่านฉลุยช่วง เม.ย.64
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงิน 3.2 หมื่นล้านบาท ทอท. อยู่ระหว่างจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.)พิจารณา
เนื่องจากเนื้องานโครงการมีการเปลี่ยนแปลงจากรายงานอีไอเอฉบับเดิมในปี 2543 ซึ่งจัดทำมาตั้งแต่ช่วงการก่อสร้างสนามบินดอนเมือง โดยครั้งนี้ ทอท.จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่แห่งที่ 3 บริเวณอาคารภายในประเทศหลังเดิมที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมองว่า อาจจะทำให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไป จึงให้ ทอท. จัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมมาใหม่
“ คาดว่าจะใช้เวลาในการจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่นาน ประมาณเดือน เม.ย. 64 คาดว่า กก.วล.จะพิจารณาอนุมัติผ่านอีไอเอฉบับใหม่ให้ ทอท. โดยระหว่างนี้ ทอท.ได้ส่งแผนพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 ให้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาคู่ขนานกันไปด้วยกับการทำอีไอเอ หากสภาพัฒน์เห็นชอบ คาดว่าจะเสนอ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการได้ช่วงเดือนมิ.ย.64 และสามารถเปิดประมูลได้ทันที คาดว่าจะตัวผู้รับเหมาช่วงปลายปี 64 และสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ต้นปี 65 ใช้เวลาสร้าง 3 ปีแล้วเสร็จ”
รายงานข่าวกล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ ทอท.ต้องทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอีไอเอใหม่ เนื่องจาก ทอท.มีแผนที่จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่แห่งที่ 3 บริเวณอาคารภายในประเทศหลังเดิมที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน เพื่อขยายปริมาณการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคน/ปี เป็น ที่ 40 ล้านคน/ปี ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มองว่าหากจะมีการก่อสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะมีการเปลี่ยนแปลงไป จึงขอให้ ทอท. จัดทำนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมใหม่
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทอท.ได้หารือร่วมกับ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ครั้งที่ 1ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ย.63 โดยคชก. ได้เสนอแนะให้ ทอท. กลับไปปรับแก้รายละเอียดการประเมินผลกระทบบางรายการที่เกิดจากการก่อสร้าง เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อย เช่น ปัญหาผลกระทบเรื่องฝุ่นจากการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่มากจะพิจารณาแล้วเสร็จ
