รายงานพิเศษ

‘ออมสิน’คิกออฟ‘สมุยโมเดล’ – พิษสงจาก ‘โควิด-19’ ดับทุกเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยในปี 2563 แบบย่อยยับ เปรียบเป็นสึนามิทางเศรษฐกิจที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว เสียหายแบบไม่ทันรับมือ

หนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญอย่างภาคการท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 60% ต่อจีดีพี หรือเฉลี่ยปีละ 40 ล้านคน สาหัสที่สุดเพราะในปี 2563 คาดว่าจะเหลือเพียง 6-8 ล้านคนจากการท่องเที่ยวภายในประเทศเท่านั้น

แม้ช่วงปลายปีรัฐบาลพยายามเร่งออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย ผ่านทั้งมาตรการ ‘คนละครึ่ง’ หรือมาตรการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ โดยช่วยเหลือค่าห้องพัก 40% กว่า 5 ล้านห้อง และกำลังจะเพิ่มอีก 1 ล้านห้องในต้นปี 2564

แต่ส่งผลเชิงบวกดึงนักท่องเที่ยวหนาตาเฉพาะพื้นที่รอบกรุงเทพฯ เช่น พัทยา หัวหิน และจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ที่คนไทยมีกำลังทรัพย์พอเดินทางท่องเที่ยวเท่านั้น

ส่วนจังหวัดที่เป็นหน้าด่านสำคัญดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 100% โดยเฉพาะจังหวัดในภาคใต้ กลุ่มหมู่เกาะต่างๆ ยังคงซบเซา เดาทางไม่ถูก

รายงานพิเศษ

โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ‘เกาะสมุย’ จ.สุราษฎ์ธานี ที่ในวันนี้เรียกว่านักท่องเที่ยวเป็นศูนย์ ย่านท่องเที่ยวอย่าง ‘หาดเฉวง’ ที่ขึ้นชื่อไร้ผู้คนและแสงไฟอย่างที่ผ่านมา

ตามนโยบายของรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งเป็นหัวหอกช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวไทย คนละไม้คนละมือ เพื่อประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านไปให้ได้

‘ธนาคารออมสิน’ โดยนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน จึงรับไม้ต่อเร่งสานนโยบายนี้ หาพื้นที่เศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญเพื่อนำร่องปักหมุดในการเข้าไปช่วยเหลือ

โดย ‘เกาะสมุย’ เป็นจุดหมายสำคัญ

“สาเหตุที่เลือกเข้ามาช่วยเหลือเกาะสมุย เพราะช่วง 2-3 เดือนก่อนมีโอกาสเดินทางมาลงพื้นที่ พบว่าเกาะสมุยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หยุดทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบ 100% จึงต้องการเข้ามาดูว่าธนาคารออมสินจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง”

นายวิทัยกล่าวว่า หลังลงพื้นที่กลับไปเวิร์กช็อปงานอยู่แรมเดือน ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการออมสิน เคาะ ‘สมุยโมเดล’ ออมสินเพื่อสมุย นำร่องพื้นที่ช่วยเหลือ คืนชีพเศรษฐกิจบนเกาะแบบบูรณาการ ทั้งเชิงมิติทางเศรษฐกิจและสังคม

พร้อมกันนี้ธนาคารออมสินพาคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่คิกออฟสมุยโมเดลอย่างเป็นทางการ พบปะผู้ประกอบการเพื่อสอบถามถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ รับฟังเสียง และความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยระบุว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวของสมุยคิดเป็น 95% ของจีดีพีในเกาะสมุยทั้งหมด หรือ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมในสมุยมีทั้งหมด 660 ราย แต่จากสถานการณ์ในขณะนี้มีการเปิดให้บริการเพียง 150 รายเท่านั้น

รายงานพิเศษ

นายวิรัช พงศ์ฉบับนภา ผู้บริหารโรงแรมพาวิลเลี่ยน สมุย วิลล่า แอนด์รีสอร์ต กล่าวว่า แม้ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะสมุยจะกลับมาเปิดให้บริการเกือบเต็ม 100% แต่อัตราการเข้าพักค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ 0-5% เท่านั้น

เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติกว่า 90% แม้จะลดราคาห้องพักลงไปแล้วถึง 70% แต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไม่สามารถทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ทั้งหมด

ภาคเอกชนจึงเสนอ 3 ข้อช่วยผู้ประกอบการ เช่น ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขยายระยะเวลาการเป็นหนี้เสีย (NPL) จากเดิมที่ผิดนัดชำระหนี้ 3 เดือนขยายเป็น 1 ปี เมื่อผู้ประกอบธุรกิจไม่เป็น NPL ไม่ต้องเข้าเครดิตบูโร

ต้องการให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้จาก 10 ปี เป็น 20 ปี

และปรับวิธีการคิดอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นแบบขั้นบันได

“สถาบันการเงินของไทยเกือบทุกแห่งปฏิเสธที่จะปล่อยสินเชื่อ หรือรีไฟแนนซ์ ให้กับผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะสมุย ทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่อง และหมดสภาพในการชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้กิจการบางส่วนถูกยึดโดยธนาคารจีน ทำให้ทุนจีนเข้ามายึดการท่องเที่ยวของไทยในอนาคตได้ในไม่ช้า” นายวิรัชกล่าว

ด้านน.ส.สิริมณี ทองคณารักษ์ ผู้ดูแลโรงแรมขวัญ บีช รีสอร์ตฯ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่โรงแรมได้รับผลกระทบหนักสุด จากปัจจุบันมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจากยุโรปสูงถึง 97% ส่วนที่เหลืออีก 3% เป็นคนจีน รัสเซีย อาเซียน และไทยรวมกัน
เมื่อปิดประเทศไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติมีผลกระทบค่อนข้างมาก

รายงานพิเศษ

โดย 3 เดือนแรก (ม.ค.-มี.ค.2563) ก่อนปิดประเทศมีรายได้ประมาณ 6.5 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเรียกว่าแทบเป็นศูนย์

แม้จะเร่งปรับตัวรับนักท่องเที่ยวไทยแล้วด้วยการปรับราคาลงกว่า 50% แต่อัตราการเข้าพักก็ยังอยู่เพียงไม่เกิน 15% เท่านั้น ขณะที่อัตราการเข้าพักยังต่างกันมาก ดังนั้นจึงได้แต่หวังว่าไทยจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเร็ว เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยจะพัก 1 คืน ต่างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักกัน 2-3 สัปดาห์

‘นายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์’ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดของการท่องเที่ยวเกาะสมุย ณ วันที่ 25 ธ.ค.นี้ มียอดจองห้องพักเข้ามาเพิ่มขึ้น 15% เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นเดือนที่มียอดเข้าพัก ประมาณ 8-10% ขณะที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 มียอดจองเข้ามาประมาณ 30% ซึ่งถือว่าดีขึ้น

จากสถานการณ์ดังกล่าว ธนาคารออมสินจึงนำร่องโครงการ ‘สมุยโมเดล’ ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ผ่านมาตรการการปล่อยสินเชื่อ และมาตรการพักชำระหนี้

ช่วยผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายย่อย หรือ เอสเอ็มอี และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากปัจจุบันสมุยพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงกว่า 90%

จัดเตรียมวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

นายวิทัยระบุว่า แนวทางช่วยเหลือเบื้องต้นให้สินเชื่อใหม่เฉลี่ยรายละ 2-5 ล้านบาท สูงสุด 300 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีมาตรการการพักชำระหนี้ออกไปจนถึงสิ้นปี 2564 หรือเริ่มต้นชำระในช่วงเดือน ม.ค. 2565 และชำระดอกเบี้ยเพียง 50% ที่เหลือเป็นการจ่ายโดยเวาเชอร์ท่องเที่ยวแทน

“ธนาคารจะนำไปต่อยอดโครงการชวนเที่ยวสมุยในเฟสต่อไป เพื่อกระตุ้นให้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่สมุย ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินในการเข้าร่วมโครงการชวนเที่ยวสมุยด้วย”

รายงานพิเศษ

ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวว่า สมุยโมเดลยังนำสินเชื่อสำหรับรายย่อยวงเงิน 10,000 บาท สูงสุด 50,000 บาทต่อราย ให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ยื่นความจำนงขอใช้เงินกู้ฉุกเฉิน

พิจารณาไม่เกิน 1 วัน หรือยื่นวันนี้รับเงินได้ภายในเที่ยงของวันรุ่งขึ้น พบว่ามีประชาชนจำนวนมากแสดงความสนใจเข้ายื่นขอสินเชื่อเป็นจำนวนมาก

ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวอีกว่า หวังว่าโครงการสมุยโมเดลจะเป็นก้าวสำคัญสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ หันมาช่วยเหลือ สนับสนุนภาคการท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะลำพังธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียวคงไม่สามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมด

‘สมุยโมเดล’ นับเป็นก้าวแรกที่จะต่อยอดไปในโครงการ ‘ออมสินชวนเที่ยวสมุย’ ในระยะต่อไป ซึ่งจะทำกิจกรรมทางการตลาด ต่อยอดให้คนไทยมาเที่ยวเกาะสมุยมากขึ้น

ธนาคารออมสินพร้อมที่จะต่อยอด ‘สมุยโมเดล’ ไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ในช่วงปี 2564

นับเป็นการพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไม่ล้มหายตายจาก จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

พรเทพ อินพรหม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน