นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ร่วมกับธุรกิจในเครือ ประกอบด้วย บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นเทล และ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี ยกระดับคุมเข้มมาตรการความปลอดภัย หลังจากไวรัสโควิด 19 ระลอกใหม่ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส สร้างความไว้วางใจในการใช้บริการของลูกค้า

โดยซีพีเอ็น เดินหน้าแผนแม่บทมาตรการเชิงรุกให้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ กับมาตรการ เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ อีกทั้งยังได้รับมอบตราสัญลักษณ์ SHA เพื่อตอกย้ำมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย สำหรับเซ็นเทล ผู้บริหารโรงแรม ใช้โปรแกรม เซ็นทารา คอมพลีท แคร์ เพื่อให้ได้มาตรฐานความสะอาดและสุขอนามัยระดับสูงสุด โดยร่วมกับ อีโคแล็บ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีความสะอาดและสุขอนามัย ส่วนร้านอาหารในเครือภายใต้บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จัดแผน 3 C คือ คัดกรองอย่างเข้มงวด รักษาความสะอาดทุกขั้นตอน, เน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่าง และการให้บริการแบบไร้สัมผัส ด้วยมาตรการคุมเข้มที่ร้านอาหารทุกสาขาทั่วประเทศ

ส่วนซีอาร์ซีสร้างธุรกิจแนวใหม่ เรียกว่า ควิก คอมเมิร์ซ เพื่อส่งสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บีทูเอส เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท และอื่นๆ ถึงบ้าน เพื่อลดการเดินทางนอกบ้าน, บริการทางเลือกสำหรับการซื้อสินค้าที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยผ่านทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์, การเพิ่มระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UV-C และทำความสะอาดทุกจุดเชิงรุกในทุกร้านทุกห้างของซึอาร์ซี

“กลุ่มเซ็นทรัลยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานด้วยการให้ทำงานจากที่บ้านเวิร์ค ฟรอม โฮม 100% หรือทำงานแยกเป็นทีม อีกทั้งยังเชื่อว่าหลังการได้รับวัคซีนโควิด-9 ภายในปี 2564-2565 หรือสถานการณ์การระบาดค่อยๆ คลี่คลายลง พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคเน็กซ์ นอร์มัล (Next Normal) อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น การให้ความสำคัญกับสุขภาพ และอื่นๆ ซึ่งธุรกิจในเครือได้เตรียมความพร้อม เพื่อรองรับและให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน