นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ ช่องทางการขายที่หลากหลาย ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มทุกเจนเนอเรชั่นในแบบที่มีความเฉพาะตัวของบุคคล มากขึ้น โดยจะเน้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอลมากขึ้นด้วย หลังจากช่องทางการขายผ่านออนไลน์ในปีที่แล้วเติบโตถึง 120% เมื่อเทียบกับปี 2562

ล่าสุดบริษัทพัฒนาแอพพลิเคชั่น MTL Click บริการในรูปแบบ Digital Face to Face Service ด้วยการเปิดให้บริการลูกค้าในรูปแบบวิดีโอ คอลล์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมกับบริษัทได้ทุกที่ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน สามารถพูดคุย หรือรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ อาทิ การซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ การชำระเบี้ยประกันภัยออนไลน์ บริการกู้ตามสิทธิกรมธรรม์ และบริการต่ออายุกรมธรรม์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอพฯ MTL Click แล้ว 316,000 ครั้ง หลังจากเปิดเพิ่งให้บริการเมื่อปีที่แล้ว

พร้อมกันนี้บริษัทตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านความคุ้มครองสุขภาพ โดยได้เปิดตัวโครงการซูเปอร์ เฮลธ์ (Super Health) ที่นำเสนอความคุ้มครองสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในทุกกลุ่มเข้าถึง กลุ่มอายุที่หลากหลาย ทั้งแบบที่ดูแลค่าใช้จ่ายตั้งแต่บาทแรกหรือแบบที่ช่วยดูแลค่ารักษาส่วนเกินจากสวัสดิการเดิมที่มีอยู่ รวมไปถึงสามารถเลือกความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก แบบผู้ป่วยใน หรือเลือกความคุ้มครองได้ทั้งสองแบบ สามารถยืดหยุ่นได้ตามความต้องการ โดยล่าสุดได้ออกกรมธรรม์ใหม่ “ดี คิดส์” ที่จะคุ้มครองวัยเด็กมีอายุตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึง 99 ปี คุ้มครองสุขภาพทั้งโรคระบาด โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ แบบจ่ายตามจริง 20-100 ล้านบาทต่อปี

“ในปี 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ท้าทายจากการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ แต่ก็ถือเป็นปีแห่งโอกาสจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังเร่งผลักดันให้มีการปรับตัวเข้าสู่โลกยุคดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว และบริษัทเองได้ปรับตัว ทั้งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และออกนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพที่สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2563 มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงอยู่ที่ 21% มีสัดส่วนการขายแบบประกันชีวิตประเภทคุ้มครองชีวิตและประกันชีวิตควบการลงทุนสูงถึง 76% ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าหมายจะมีเบี้ยรับใหม่เติบโต 8-10%”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน