พาณิชย์คาดไตรมาสแรกปีนี้ติดลบ 2.5% ผลจากฐานปีก่อนสูง ปัจจัยลบสำคัญยังมีแค่โควิด แต่ภาพรวมทั้งปียังเป็นบวก 4%

พาณิชย์คาดส่งออกหดตัว 2.5% – นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.). ของปีนี้ การส่งออกของไทยยังมีสัญญาณที่ดีแม้ว่าทั่วโลกจะยังมีการระบาดของโควิด-19 โดยหากหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธออกไป เป็นบวกที่ 5.15% และคาดว่าในเดือนมี.ค.นี้ การส่งออกของไทยในภาคเศรษฐกิจจริง หรือเรียลเซกเตอร์ น่าจะมีการขยายตัวดีเช่นกันเป็นการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก แต่มีข้อสังเกตว่าฐานการส่งออกในเดือนมี.ค.ปีก่อนหน้านี้สูง โดยเฉพาะทองคำและอากาศยานซึ่งอาจทำให้กดดันตัวเลขการส่งออกของเดือนมี.ค.ปีนี้ได้ และอาจส่งผลให้ไตรมาส 1 ของปีนี้หดตัวลงเล็กน้อย แต่ไม่มีความน่ากังวลมากนัก โดยคาดว่าจะอยู่ที่ -2.5%

ส่วนไตรมาส 2 จะเป็นช่วงที่น่าจะมีการขยายตัวของการส่งออกโดยเฉพาะในเดือนพ.ค. และมิ.ย. เพราะยังมีสินค้าส่งออกสำคัญหลายตัวที่มีแนวโน้มจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง เช่น ถุงมือยาง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันสำปะหลัง อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้ เป็นต้น ส่วนปัจจัยลบก็ยังไม่มีปัจจัยใดที่ชัดเจนที่จะกระทบตัวเลขการส่งออก ยกเว้นปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ค่าระวางเรือที่สูงขึ้น แต่หน่วยงานทีเกี่ยวข้องก็ไม่นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาร่วมกันแก้ไขปัญหามาโดยตลอด และพบว่ามีทางออกร่วมกันหลายเรื่อง จึงไม่น่าห่วงมากนัก ส่วนไตรมาส 3 และ 4 ไม่น่าจะมีปัญหา จากการศึกษาข้อมูลการส่งออกย้อนหลังของไทยพบว่าการส่งออกของไทยมีการปรับตัวขึ้นลงตามฤดูกาล หรือซีซั่นนอล ยกเว้นในปีที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ก็จะฐานต่ำลงมาบ้าง และทั้งปีหากต้องการให้การส่งออกขยายตัวได้ 4% ไทยต้องส่งออกให้ได้มูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 2.08 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และมั่นใจว่าเป้าส่งออกปีนี้จะยังอยู่ที่ 4%

ยกเว้นมีปัจจัยลบต่างๆ เช่น การระบาดของโควิด-19 ที่อาจรุนแรงมากขึ้นจนทำให้มีการล็อกดาวน์ในต่างประเทศ ทำให้กำลังซื้อในต่างประเทศศลดลงตามไปด้วย ส่วนค่าเงินบาทนั้น ขณะนี้ยังไม่ใช่ปัจจัยเพราะเริ่มอ่อนตัวลง บวกกับราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ส่วนนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ไม่น่าจะส่งผลเชิงลบต่อการส่งออกของไทย เพราะประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีท่าทีที่ไม่แข็งกร้าวในการทำการค้ากับจีนเหมือนที่ผ่านมา และเน้นการสร้างพันธมิตรมากกว่าศัตรู ทำให้จีนทำการค้าได้ดีมากขึ้น ส่งผลให้จีนมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้การส่งออกในภูมิภาคนี้รวมทั้งไทยฟื้นตัวตามไปด้วย

ขณะเดียวกันก็ต้องจับตามองนโยบายของโจ ไบเดน ที่เน้นให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาจส่งผลต่อการส่งออกสินค้าบางประเภทของไทย เช่น รถยนต์สันดาป รวมทั้งอาจมีการยกเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา มาเป็นประเด็นทางการค้าก็ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เพราะเป็นสิ่งที่สหรัฐดำเนินการมาตลอดเวลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน