นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. เร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ตามสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซที่เพิ่มมากขึ้น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และเหตุการณ์หยุดผลิตที่ไม่เป็นไปตามแผนของโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 4 โรง กำลังการผลิตรวม 2,750 เมกะวัตต์ ซึ่งทยอยหยุดผลิตนอกแผนตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทน ประมาณ 450 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

นอกจากนี้ ความต้องการใช้ก๊าซในประเทศยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ปตท. จึงประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถึงแผนการใช้ก๊าซและเรียกรับก๊าซเพิ่มเติมตามศักยภาพจากผู้ผลิตก๊าซในอ่าวไทยและเมียนมา พร้อมทั้งบริหารจัดการแอลเอ็นจีเพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อให้ปริมาณก๊าซเพียงพอต่อความต้องการ ไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อประเทศในราคาที่เหมาะสม

โดยปัจจุบันราคาแอลเอ็นจีในสัญญาระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 6.5-7 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ขณะที่ราคาแอลเอ็นจีตลาดจรปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8.5-10 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน