น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำวงเงิน 568 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ภายใต้แผนงานบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อใช้สำหรับงานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยตามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ฝ่ายรัฐต้องส่งมอบพื้นที่โครงการช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภาให้เอกชนคู่สัญญาภายในวันที่ 24 ต.ค. 2564

จึงมีความจำเป็นต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวภายในวันที่ 8 มิ.ย. 2564 เพื่อให้ส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญาได้ทันตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุน ไม่เช่นนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะมีความเสี่ยงที่จะผิดสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งคู่สัญญาอาจมีหนังสือแจ้งรฟท. ให้สัญญาร่วมลงทุนมีผลสิ้นสุดลง หรือใช้สิทธิ์เรียกค่าเสียหายได้แก่ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ครม. อนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 ในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า ค่าพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟและบริการผู้โดยสาร และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งดำเนินงานบริหารและซ่อมบำรุงโครงการ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนรวมเป็นเวลา 50 ปี และเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารของโครงการ รวมทั้งจัดเก็บรายได้จากการพัฒนาพื้นที่โครงการ โดยมีค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งสิ้น 5,740 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน